หลัง กระทรวงพาณิชย์ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงสถานการณ์ราคาหมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ มีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ทางภาคเหนือราคาขายอยู่ที่ 170-180 บาทต่อกิโลกรัม และในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ราคาพุ่งแตะ 190 บาทต่อกิโลกรัมนั้น ซึ่งราคาดังกล่าวคาดว่าเป็นระดับราคาสูงสุดในรอบ 10 ปี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในแต่ละจังหวัดติดตามสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิดและรายงานข้อมูลกลับส่วนกลางรายวัน เบื้องต้นคาดว่าเร็ว ๆ นี้ราคาจะเริ่มขยับลดลง

ด้าน นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ประเมินว่า ราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นจะเกิดในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยเหตุผลส่วนหนึ่งมาจากนโยบายการผ่อนคลายให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเปิดดำเนินการได้มากขึ้น หลังการระบาดของโรคโควิด-19 หากราคาพุ่งต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ ก็จะต้องใช้มาตรการควบคุมราคาเข้ามาดูแล

ทางด้าน อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พ่อค้าแม่ค้าใน จ.พิษณุโลก พากันโอดว่า ตอนนี้ราคาหมูหน้าฟาร์มยังไม่นิ่ง และมีราคาแพงกว่าปกติ โดยอยู่ที่ 80 - 87 บาท/กิโลกรัม ทำให้ต้องปรับราคาหมูหน้าเขียงเป็น 150 - 170 บาท/กิโลกรัม จึงอยากให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ช่วยเข้ามาควบคุมราคา  โดยพ่อค้าแม่ค้าคาดว่า สาเหตุที่เนื้อหมูมีราคาแพงกว่าทุกปี น่าจะเป็นเพราะช่วงฤดูร้อนทำให้หมูป่วย จึงมีหมูส่งออกตลาดลดลง ราคาขายแพงขึ้น กำไรเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะปรับแพงขึ้นกว่านี้ก็ไม่ได้ เพราะต้องรักษาฐานลูกค้า และอยากวอนให้หน่วยงานรัฐเข้ามาควบคุมราคาหมูเป็น เพราะปรับราคาราคาขึ้นวันเว้น ซึ่งถือว่าแพงที่สุดในรอบ 10 ปี แพงกว่าช่วงตรุษจีนเสียอีก ทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องปรับราคาหน้าเขียง แล้วผลักภาระให้ผู้บริโภค มิเช่นนั้นก็อยู่ไม่ได้