มทภ. 4 ประธานเปิดโครงการ “ปล่อยปลา ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครศรีธรรมราช
20 ก.ค. 2563, 19:04
วันที่ 20 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ค่ายฝึกรบพิเศษที่ 4 (สิชล) ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “ปล่อยปลา ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เฉลิมพระเกียรติฯ ” เนื่องในมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 โดยใช้พื้นที่ว่างเปล่าในพื้นที่ของค่ายรบพิเศษที่ 4 (สิชล) ทำการปล่อยพันธุ์ปลา ปลูกป่า มี พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผบ.กองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 พร้อมคณะนายทหารจากหน่วยทหารในสังกัดกองทัพภาคที่ 4 หน่วยงานราชการ เอกชน ประชาชนจิตอาสาพระราชทานและนักเรียนนักศึกษา กว่า 2,000 คน ร่วมต้อนรับและร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง
สำหรับวัตถุประสงค์ของโครงการ ฯ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยพระวิริยะอุตสาหะ และเพื่อเชิดชูพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงน้อมนำ สืบสาน พระราชกรณียกิจของพระบรมราชชนกและพระบรมราชชนนี ตลอดจนพระราชปณิธานอันแน่วแน่มั่นคงในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ และทรงให้ความสำคัญกับทรัพยากรป่าไม้และทรัพยากรน้ำมาตลอด/ ทรงดำเนินโครงการ “ปล่อยปลา ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เฉลิมพระเกียรติ ฯ” ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติด้วยพระปรีชาสามารถอย่างชาญฉลาดทำให้เกิดประโยชน์แก่ปวงชนอย่างสูงสุดและทั่วถึงกัน
สำหรับการปลูกป่าในครั้งนี้เป็นการปลูกพันธุ์ไม้ที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ ประกอบด้วย ไม้ตะเคียนทอง, สักทอง, ยางนา, กระถินเทพา, มะฮอกกานี, พะยอม, พะยูง, ไม้แดง มะปริง, มะปรางค์ เป็นต้น ในขณะที่การปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดลงสู่แม่น้ำลำคลอง เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนในการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของผืนน้ำ และเพิ่มความสมบูรณ์ของระบบนิเวศในแม่น้ำลำคลองมากขึ้น
หลังจากแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่กำหนดแล้วได้เดินทางปล่อยปลาจำนวน 16,668 ตัว ณ คลองตาโป ด้านหน้าค่ายฝึกรบพิเศษ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะเดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง พร้อมปลูกต้นทุเรียน ก่อนจะเดินทางปลูกต้นรวงผึ้ง จำนวน 10 ตัน หน้าอาคารกองร้อยฝึกรบพิเศษ ต่อด้วยการเป็นประธานในพิธีเปิดสนามยิงปืนพกทางทหาร และเปิดการแข่งขัน หลักสูตรหน่วยทหารขนาดเล็ก
พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ว่า ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาตนมุ่งมั่นทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง จริงใจและต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยยาเสพติดเป็นปัจจัยสำคัญที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นทางผู้บัญชาการกองทัพบกจึงมีนโยบายชัดเจนในการแก้ปัญหายาเสพติดเราถือเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นความต้องการของประชาชนในพื้นที่ทุกคน และที่ผ่านมาพบเห็นชัดเจนว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อความไม่สงบเรียบร้อยส่วนใหญ่จะมียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกครั้งที่เราปะทะและจับกุมผู้ก่อการร้ายในตัวคนร้ายหรือโจรที่จับกุมได้จะพบว่ามียาเสพติดอยู่ด้วยทุกคน ดังนั้นขบวนการยาเสพติดกับผู้ก่อการร้ายจึงแยกกันไม่ออก โดยตนในฐานะผู้อำนวยการ ปปส.ภาคใต้ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุ่มเทแก้ไขปัญหาช่วยเหลือประชาชนตามชุมชนทุกหมู่บ้าน เราจะเน้นเรื่องที่ชาวบ้านที่แจ้งเบาะแสทั้งผู้ผลิต ผู้ค้าอย่างต่อเนื่องจริงจัง เพราะหลังจากที่เรานำผู้เสพเข้ารับการบำบัดมาแล้วกว่า 20,000 คน ปีที่ผ่านมาเน้นการจับกุมพ่อค่ารายย่อย และในปีนี้เราเน้นพ่อค้ารายใหญ่เป็นหลัก ที่สำคัญเป็นหัวใจคือเราจะต้องบังคับใช้กฎหมายกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ได้ โดยเฉพาะแหล่งเงินทุนและผู้ค้ารายใหญ่ ที่ผ่านมาผมพอใจผลการปฏิบัติที่สามารถจับกุมตรวจยึดยาเสพ ติดล็อตใหญ่ได้ และกำลังจะมีข่าวดีในเร็ว ๆ นี้ เพราะประชาชนให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสให้เรา ประชาชนเชื่อใจในรัฐมากยิ่งขึ้น
สำหรับโจรก่อการร้ายนอกจากจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดแล้วจะมีการสะสมอาวุธสงครามเอาไว้ด้วย เพื่อตอบโต้ต่อกรกับเจ้าหน้าที่นั้นในขณะนี้ตนกำชับให้มีการตรวจเช็ค ตรวจสอบเรื่องอาวุธสงคราม กระสุนปืนของหน่วยทหารเรามีระบบการตรวจสอบที่เข้มแข้งมากจะไม่ยอมให้เล็ดลอดออกไปอยู่ในมือกลุ่มโจร ทางผู้บัญชาการทหารบกท่านก็สั่งการอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามอาจจะมีปัญหาแนวแนวตะเข็บชายแดนบ้าง แต่ทางกองทัพเราก็พยายามควบคุมอย่างเข้มงวดกวดขันอยู่
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ปัจจุบันการวิธีการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเราผ่านสภาองค์กรบริหารส่วนตำบล 290 แห่งเป็นตัวแทนประชาชนทั้ง 2 ล้านคน ซึ่งหนึ่งล้านแปดแสนคนเป็นชาวมุสลิม อีกสองแสนเป็นชาวไทยพุทธทั้งหมดช่วยสะท้อนความต้องการของประชาชน ดังนั้นคนส่วนใหญ่ 2 ล้านคน มีความต้องการในทิศทางเดียวกันถือเป็นประชาธิปไตยอย่างมากโดยอันดับหนึ่งที่ประชาชนต้องการคือความสันติสงบเรียบร้อย สองการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งการดำเนินการประชาชนเกือบทั้งหมดเห็นด้วยและให้ความร่วมมือมีเพียงคนจำนวนน้อยมากที่ก่อการร้าย และคนกลุ่มนี้ประมาณ 5,000 คน อยู่ในข่ายที่จะถูกดำเนินคดี เมื่อเราดำเนินการควบคุมเรื่องการใช้ซิมโทรศัพท์ และมุ่งตรวจดีเอ็นเอ ก็มีกลุ่มคนและบางองค์กรออกมาต่อต้านคัดค้านอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หากไม่ได้ทำอะไรผิดกลัวทำไม ที่ออกมาต่อต้านตัดค้านเพราะอาจจะเป็นพรรคพวกญาติพี่น้องของตัวเอง หากเราตรวจดีเอ็นเอกลุ่มบุคคลจำนวนดังกล่าว 5,000 คนเราก็จะพบหลักฐาน เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มันจะโผล่ออกมาให้เห็นทันที มัดตัวดิ้นไม่หลุด หลายคนอาจจะก่อคดีร้ายแรงปล้นฆ่าตัดคอหลายศพอะไรทำนองนี้ จำเป็นต้องออกมาต่อต้านคัดค้านพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ในขณะนี้ตนและผู้นำฝ่ายทหารจึงใช้วิธีไลท์สดชี้แจงความจริงอย่างจริงใจ ความจริงในคือความจริง ใครจะเบี่ยงเบน บิดพลิ้วอย่างไรมันหนีความจริงไม่พ้น
“2 ปีที่ตนคลุกคลีอยู่ในพื้นที่ ทำให้มีความรู้สึกแดละให้มั่นใจว่าแนวโน้มเรื่องการกลับมาสงบสันติสุขของชายแดนภาคใต้กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ซึ่งที่ผ่านมามีการสอบถามกันมากว่าเมื่อไหร่จะยุติปัญหาเสียที เมื่อไหร่จะเกิดสันติสุขอย่างแท้จริงเสียที ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีใครตอบได้ แต่ในขณะนี้เราตอบได้แล้วว่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้แน่นอนเพียงแต่อาจจะยังระบุวันเวลาที่ชัดเจนไม่ได้ แต่ตนมั่นใจว่าไม่นานนี้ความสงบสุขสันติสุขจะเกิดขึ้นในภาพรวมพื้นที่ชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน”
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ กล่าวอีกว่าเงื่อนไขและปัจจัยในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้คือความจริง และความจริงใจ “นักรบ พบรัก กลับบ้านร่วมกันสร้างสันติ” ตอนนี้ชาวบ้านทราบทั่วกันแล้วว่าอะไรเป็นอะไร รัฐบาลจริงใจ เอาความจริงมาพูดกัน เมื่อเขาเห็นว่ารัฐบาลยื่นมือเข้าไปช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจังไม่มีการบิดพลิ้ว เบี่ยงเบนทุกอย่างก็จบ ทิศทางที่จะนำไปสู่สันติสุขก็จะสำเร็จได้ในที่สุด “ความจริง และจริงใจทำให้เกิดสันติสุข” แม่ทัพภาคมที่ 4 กล่าวย้ำ