วันที่ 21 กรกฎาคม เวลา 09:00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ดร. เสรี วงษ์มณฑา อาจารย์ประจำภาควิชาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย พระจอมเกล้าพระนครเหนือ ตำบหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เดินทางมาสอนนักศึกษา ภายในห้องเรียนของทางมหาวิทยาลัยโดยเป็นการสอนผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมีนักเรียน เรียนอยู่ทางบ้านในวันนี้ พร้อมจะเปิดเรียนจริงในสัปดาห์หน้าโดยมีศาสตราจารย์ ดร.ธานินทร์ ศิป์จารุ คณะบดีคณะบริหารธุรกิจ พร้อมคณาจารย์ ดำเนินการสอน นักศึกษา ตามมาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข

 

ดร. เสรี วงษ์มณฑา กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ก็ได้ติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอย่างรอบด้าน ในทุกช่องทาง ติดตามรายงานของ สคบ.ทุกวันเวลา 11.30 น. เห็นถึงขั้นตอนในการจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีระยอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การตรวจกล้องวงจรปิด ให้เห็นถึงพฤติกรรมของทหาร อียิปต์ นอกจกนี้ยังมีรถพระราชทานที่มาตรวจ ซึ่งหมอก็รายงานว่าหลาย 1,000 คน ที่ตรวจไปก็ไม่มีเชื้อ ส่วนเรื่องที่ระยองจะเกิดอะไรขึ้น ก็ได้มีการปักหมุดอย่างชัดเจน ในตอนแรกก็ได้มีการปักหมุด 3 ที่ โรงแรมดีวารี ห้างแหลมทองและห้างเซ็นทรัล แต่พอดูกล้องวงจรปิดแล้วก็พบว่า ที่เซ็นทรัล 4 คน ที่แยกออกไป ไม่ใช่คนที่ติดเพราะฉะนั้นเราก็แยกออกได้ พอถึงอีกสองกลุ่มนั้นพอเราดูกล้องแล้ว ทหารอียิปต์เค้าเป็นมุสลิม เพราะฉะนั้นการที่เขาจะไปใช้บริการห้องต่างๆ คงไม่มี เพราะมุสลิมเขาเคร่งเรื่องของอาหารการกิน และเมื่อเข้าไปที่แหลมทอง เขาก็ไม่ได้ซื้ออะไร ไม่ได้เข้าไปที่ฟู้ดเซ็นเตอร์ เพราะฉะนั้น รายงานที่ออกมาจากการตรวจหลาย 1,000 คน ไม่เจอไม่พบเชื้อ จึงมั่นใจว่าจนบัดนี้ ก็ไม่น่าจะเจอแล้ว ลองนึกดูเรื่องของการฟักตัวประมาณ 5 วัน ก็คงจะต้องปรากฏ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 13 บัดนี้วันที่ 20 กว่าแล้ว มันเกินมาเป็นสัปดาห์แล้ว ถ้าใครจะเป็นก็น่าจะเจอแล้ว และอีกอย่าง มาตรการของรัฐบาลที่หมอได้แนะนำเรื่องไทยชนะ ก็ทำให้เราสามารถติดตามดูคนซึ่งอยู่ในระดับเสี่ยง ซึ่งจะเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง เสี่ยงต่ำ ปัจจุบันนี้คนที่เสี่ยงสูงก็คือ คนที่ทำงานในโรงแรมก็ได้รับการตรวจหมดแล้ว ไม่พบเชื้อ 

ดังนั้นเมื่อเสี่ยงสูงไม่พบ แล้วเสี่ยงกลาง เสี่ยงต่ำมันจะมีได้อย่างไรขอให้มั่นใจเพราะในเมื่อเขาใส่หน้ากากเดิน เขาไม่ได้ไปกินอาหารเพราะฉะนั้นก็คงไม่ได้แพร่กระจายอะไรให้ใครทั้งสิ้นเพราะเขาอยู่ด้วยกัน 31 คน ไม่อย่างนั้น ป่านนี้คน 30 คนที่อยู่ใกล้น่าจะเป็นอะไรไปก่อนแล้ว บัดนี้ ข้อมูลจากทาง สบค. ชัดเจน หมดเวลาที่จะตกใจ หมดเวลาที่จะตื่นตูม ถึงเวลาที่จะออกมา ทำมาหากิน ส่วนจะให้ทุกอย่างมันกลับไปเหมือนเดิมมันคงไม่ใช่ เพราะว่าอัตราความกลัวในคนไม่เท่ากัน จะให้กลับมา 100% เหมือนเดิม คงไม่ได้ คงค่อยๆเป็นค่อยๆ ไป แต่วันนี้คนระยอง ต้องลุกขึ้นกลับมาทำมาหากินใช้ชีวิตปกติ และเกิดความเชื่อมั่นได้แล้ว