เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ ได้คุมตัว นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/21 หมู่ 8 ต.คลองวาฬ อ.เมือง มารดาของ น.ส.ขนิษฐา พนักงานราชการ ที่ยักยอกงบประมาณราชการศาลากลางจังหวัดประจวบฯไป 39.2 ล้านบาท สอบเพิ่มเติมในข้อหามาตรา 86 และข้อหาสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดตามมาตรา 157 ตามประมวลกฎหมายอาญา ที่ น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานราชการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บุตรสาว ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 หลังจากนำเงินงบประมาณของทางราชการหายไปเกือบ 40 ล้านบาท จากการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเลคทรอนิคส์ หรือ GFMIS โอนเข้าบัญชีส่วนตัว

โดย พบการกระทำความผิดในการทำข้อมูลหลักฐานเท็จจากการปลอมเช็ครวม 165 ครั้ง ขณะนี้ถูกควบคุมตัวจากการฝากขังผัดที่ 3 ในเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนางสายพิณได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ใช้เวลาสอบปากคำกว่า 1 ชั่วโมง หลังเสร็จสิ้นพนักงานสอบสวนสอบได้นำตัว ไปขออำนาจศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝากขังผัดแรก 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ญาติผู้ต้องหาเตรียมโฉนดที่ดิน 2 ไร่ ที่ ต.คลองวาฬ มูลค่าหลักทรัพย์ 3 แสนบาทมายื่นขอประกันตัวในชั้นศาลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์

 

นางสายพิณ กล่าวว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะตกเป็นผู้ต้องหา แต่ไม่เคยคิดหลบหนีไปไหน เพราะมีอาชีพเลี้ยงวัว และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด แม้ว่าจะอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่ลูกสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง ยอมรับว่าในระยะหลังสังเกตลูกสาวมีอาการเครียดก่อนที่จะถูกดำเนินคดี ซึ่งลูกสาวยอมรับว่าเอาเงินไปเล่นการพนันออนไลน์จริงไม่อย่างนั้นเงินจะหายไปไหนหมด ส่วนบัญชีเงินฝากธนาคาร ธ.ก.ส. ที่ใช้โอนเงินจากการทุจริตเป็นบัญชีที่เปิดไว้เพื่อรับเงินผู้สูงอายุรายเดือน แต่หลังจากลูกสาวถูกจับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดเงินในบัญชีทั้งหมด ก่อนหน้านี้หลังลูกสาวติดคุกได้เดินทางไปเยี่ยมที่เรือนจำครั้งเดียว ลูกสาวบ่นคิดถึงลูกสาววัย 3 ขวบ เพิ่งเข้าเรียนในชั้นเด็กเลกเป็นปีแรก” นางสายพิณ กล่าว

มีรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่นางสายพิณ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจากที่ผ่านมา น.ส.ขนิษฐา โอนเงินจากบัญชีภัยแล้ง 23.2 ล้านบาท บัญชีงบแผนพัฒนาจังหวัดปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านบาท บัญชีเงินฝากคลัง 7.3 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาประจวบคีรีขันธ์ ชื่อบัญชี นางสายพิณ โดยผ่านระบบการเงินการคลัง GFMIS เพื่อนำไปสร้างข้อมูลหลักฐานเท็จ ให้มารดาเป็นตัวแทนในระบบหลักผู้ขาย จากนั้นมีการกรอกข้อมูลผ่านแบบขออนุมัติข้อมูลหลักผู้ขาย มีการปลอมลายมือชื่อของผู้มีอำนาจ เพื่อนำไปสร้างข้อมูลหลักผู้ขายและสั่งจ่ายเงินตรงเข้าบัญชีที่กรอกไว้ตามแบบอนุมัติข้อมูลหลักผู้ขาย