วันนี้ (22 ก.ค.63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นพ.ณรงค์ ธาดาเดช ผอ.โรงพยาบาลอุดรธานี นำผู้สื่อข่าวตรวจสอบระบบป้องกันความปลอดภัยขอห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี อีกครั้ง หลังจากที่เมื่อเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา มีการนำส่งตัววัยรุ่นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุทะเลาะวิวาทที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยหลังจากที่นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาตัวภายในห้องฉุกเฉิน มีกลุ่มเพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 10 คน เดินทางมา เพื่อจะเข้าดูอาการของผู้บาดเจ็บ แต่ทาง รปภ. และตำรวจ ไม่ให้เข้าไปภายในห้องฉุกเฉินโดยเด็ดขาด

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดของ รพ.ศูนย์อุดรธานี ที่ติดตั้งไว้ที่หน้าทางเข้าห้องฉุกเฉินจับภาพได้ มีกลุ่มวัยรุ่นที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนและญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งชายและหญิงประมาณ 10 คน จะเข้าไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่มี รปภ. ของโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้เข้าพูดคุยกับกลุ่มที่เดินทางมา จนกลุ่มเพื่อนเดินทางกลับ เหลือเพียงญาติของผู้บาดเจ็บที่เฝ้าคอยการรักษา

 

 

 

ทางด้าน นายณรงค์ ธาดาเดช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.63) เวลาประมาณเกือบตีหนึ่ง ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอุดรธานีได้รับผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย 4 คน เข้ามาที่บริเวณจุดตรวจคัดกรอง จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าเป็นเหตุทะเลาะวิวาท โรงพยาบาลอุดรธานีจึงรีบรุดใช้ระบบการเตือนภัยตามที่ได้วางแผนไว้ทันที โดยตาม รปภ. มาประจำการที่ห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็แจ้งประสานขอกำลังตำรวจเข้ามาร่วมปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยร่วมด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำผู้ป่วยเข้ารักษา เวลาต่อมาประมาณครึ่งชั่วโมง มีกลุ่มวัยรุ่นตามมาที่โรงพยาบาลอีกประมาณ 12-13 คน ซึ่งก็เป็นไปที่คาดคิดและเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ถึงแม้จะเป็นกลุ่มเดียวกันก็ไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมเพื่อนได้ และเราเกรงว่าจะเข้าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ฯ เคสนี้เป็นเคสตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี กล่าวต่อไปว่า สำหรับโซนห้องฉุกเฉินใหม่ของโรงพยาบาลอุดรธานีนั้น ประตูที่เข้าหรือออกได้นั้นจะต้องได้รับการอนุมัติให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยมี รปภ. เป็นผู้ปฏิบัติควบคุมความปลอดภัย จุดนี้เป็นมาตรการที่โรงพยาบาลเตรียมพร้อมรับหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีหากเกิดเหตุแล้วเราก็ได้มีมาตรการโดยจะมีการเตือนภัยซึ่งเป็นเสียงสัญญาณ 3 ครั้ง เมื่อได้ยินเสียงแล้วบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานจะได้เข้าหลบพร้อมเคลื่อนย้ายวัสดุอุปกรณ์ราคาแพงเข้าที่ห้องปลอดภัย

อย่างไรก็ดีเหตุนี้เป็นเหตุจำเป็นและเป็นกระแสที่ถูกพูดถึง ทางโรงพยาบาลก็เลยเตรียมความพร้อมโดยแจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบและให้นโยบายมาว่า “ห้องฉุกเฉินต้องปลอดภัย” พร้อมสั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งทำ ขอยืนยันระบบที่โรงพยาบาลอุดรธานีสมบูรณ์แบบที่สุด ด้านขวัญและกำลังใจของบุคลลากรของโรงพยาบาลตอนนี้มีความมั่นใจ บุคลากรที่ปฏิบัติการในระบบห้องฉุกเฉินนี้มั่นใจระบบรักษาความปลอดภัยกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพที่เขาใกล้บริเวณนี้ได้