ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.  วันที่ 23 ก.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรลูกแก รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีด บุกปล้นชิงทรัพย์ ภายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาท่าไม้ พื้นที่หมู่ 6 ตำบลท่าไม้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี หลังเกิดเหตุ พันตำรวจเอกบรรจง อมฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางลงพื้นที่ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรลูกแก ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พร้อม

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เก็บลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ ซ้อมสอบปากคำพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเวลาประมาณ 03.00 นาฬิกา ได้มีชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ เดินเข้ามาภายในร้านด้วยท่าทีเหมือนกับลูกค้าทั่วไป ก่อนจะใช้อาวุธมีดออกมาจี้บังคับให้พนักงานนำเงินในเค้าเตอร์ ออกมาให้กับคนร้าย หลังได้เงิน หนึ่งในคนร้ายได้พยายามเข้าไปลวนลามพนักงานหญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง โดยพยายามดึงหน้ากากอนามัย ของพนักงานหญิงออก และพยายามเข้าไปจูบปากพนักงานหญิงคนดังกล่าว จากนั้นได้ที่บังคับพนักงานหญิงคนดังกล่าวให้ขึ้นรถจักรยานยนต์ไปกับคนร้ายทั้งสองคนและหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

 

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยเหลือพนักงานหญิงคนดังกล่าวได้เป็นที่เรียบร้อย โดยพบว่า คนร้ายได้นำตัวของพนักงานหญิงคนดังกล่าวไปทิ้งไว้ บริเวณป่าละเมาะใกล้เคียงกับบ่อบำบัดน้ำเสีย ห่างจากร้านที่เกิดเหตุ ประมาณ 2 กิโลเมตร เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพิ่มเติมแล้ว จากการสอบถามบรรดา แม่ค้าที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนช่วงประมาณตีสาม ขณะที่ตนลุกขึ้นมาเพื่อเตรียมทำกับข้าวขายตามปกติ ได้เห็นชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่ร้านสะดวกซื้อเหมือนกับลูกค้าปกติทั่วไป ก่อนจะมีลักษณะคล้ายการยื้อยุดฉุดกระชากกัน แต่ตนไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าพนักงานในร้านเล่นกัน ก่อนที่ชายทั้งสองคน จะพาพนักงานหญิง ขึ้นรถจักรยานยนต์ออกไปจากร้าน

 

ขณะนี้ชาวบ้านที่เปิดร้านค้าอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้เคยเกิดเหตุปล้นชิงทรัพย์มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาได้แล้ว ครั้งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่หวังหาเงินไปเที่ยวเตร่เข้ามาก่อเหตุ เนื่องจากในช่วงกลางคืนบริเวณจุดเกิดเหตุไม่มีร้านค้าหรือบ้านเรือนเปิดเลยมีเพียงร้านสะดวกซื้อเท่านั้นที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง./