จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ เหตุเกิดที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้

ต่อมามีชาวบ้านมาพบเสื้อสีส้ม บริเวณใต้กอไผ่ใกล้กับสวนยาง ใกล้บ้านลุงพล  จึงได้ขอร้องให้ติดกล้องวงจรปิดให้ด้วย เพราะรู้สึกว่า เริ่มมีอะไรแปลกๆ เกรงจะถูกใส่ร้ายป้ายสี 

ด้านนายชาญ หลาบหลาบโพธิ์ ตาน้องชมพู่ เตรียมพาสมาชิกในครอบครัว ไปดื่มน้ำสาบานยังวัดถ้ำภูผาแอก เพื่อให้คลายข้อสงสัยกันในครอบครัว รวมถึงแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าทุกคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชมพู่ ซึ่งการสาบานครั้งนี้ หากบุคคลใดโกหก จะต้องตายโหงใน 3 วัน 7 วัน

ทำให้ลุงพล ออกมากล่าวว่า จะไม่ดื่มน้ำสาบาน เกรงอาจถูกวางยาสั่งในน้ำจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งหากมีการดื่มน้ำพร้อมจะดื่มที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วเท่านั้น เชื่อมีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง แต่ถ้าให้กล่าวคำสาบานเฉยๆ ลุงพลพร้อมทำทันที

และในที่สุดได้ข้อสรุปว่า จะทำพิธีสาบาน ที่วัดภูผาแอก บริเวณหน้าสถูปตั้งอัฐิของพระอาจารย์ลิ้น ทีฆปญฺโญ (ทีคะปันโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดภูผาแอกที่ชาวบ้านเคารพนับถืออย่างมาก โดยเชื่อกันว่าวัดแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นเมืองบังบด

และมีเรื่องเล่าว่าตำตานว่าหลวงปู่ลิ้น จะไปไหว้พระธาตุที่วัดพระธาตุพนม โดยบอกให้ลูกศิษย์ออกเดินล่วงหน้าไปก่อน แต่เมื่อลูกศิษย์เดินทางไปถึงวัดพระธาตุพนม ก็พบว่าพระอาจารย์ลิ้น รออยู่ที่วัดพระธาตุพนมแล้ว ซึ่งก็สร้างความตกใจในความศักดิ์สิทธิ์ให้กับลูกศิษย์ เพราะระหว่างทางที่ลูกศิษย์เดินทางนั้น ก็ไม่เจอพระอาจารย์ลิ้นระหว่างทางเลย