ญาติแจ้งความตำรวจยิงหนุ่มใหญ่ดับ เผยนาทีก่อนสิ้นใจ ชี้ทำเกินกว่าเหตุ (คลิป)
27 ก.ค. 2563, 08:41
คืบหน้าคดี นายลำเพย จำปา หรือฟุ้ง อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 274 หมู่ 1 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ถูก ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา อายุ 58 ปี รองสารวัตรงานป้องกันปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจประจำตำบลบ้านค้อ สภ.โพนสวรรค์ ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงเสียชีวิต บริเวณถนนคอนกรีตในหมู่บ้าน ในขณะที่ ร.ต.ท.วิจิตรฯคู่กรณี ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีดปลายแหลม ความยาว 44.5 ซม. ฟันเข้าที่ศีรษะและนิ้วมือเย็บกว่า 20 เข็ม ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครพนม ส่วนศพของนายลำเพยถูกฝากไว้ที่ห้องเย็นของ ร.พ.นครพนม เนื่องจากมีวันหยุดยาวหลายวัน เมื่อราชการเปิดทำการก็จะนำส่งผ่าชันสูตรที่นิติเวช ร.พ.ศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ถึงสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายมานัต อาจมังกร อาสาสมัครกู้ภัยศรีสัตตนครพนม ซึ่งเป็นผู้นำคลิปในการขณะเกิดเหตุลงเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค Manat K Artmongkron พร้อมระบุข้อความว่า”ขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตายด้วยครับ คำตอบจากเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในใจของชาวบ้าน ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม แล้วการนำเสนอข่าวเพียงด้านเดียวมันถูกต้องแล้วหรือ ?
การตัดสินใจว่าชีวิตคนคนนึงต้องตายจากข้อความไม่กี่บรรทัดถูกต้องแล้วหรือ ? จรรยาบรรณของสื่ออยู่ตรงไหน หรือแค่อยากจะขายข่าวไปวันๆ ?#คนตายไม่มีสิทธิ์เล่า #ท่านพูดได้อย่างไรว่าเป็นผู้รับใช้ประชาชนในเมื่อท่านหันปากกระบอกปืนพ่นกระสุนใส่ประชาชนอย่างไม่ขาด อภิชัย ไพรสณฑ์ *แก้ไขเพิ่มเติม : ก่อนเริ่มคลิปเจ้าหน้าที่ได้ยิงที่บริเวณขาและข้อเท้าทั้งสองข้างอย่างละนัดแล้วนะครับ”
โดยนายมานัตเปิดเผยว่าตนพร้อมเพื่อนๆ ได้มาเปิดศูนย์ประสานงานกู้ภัยศรีสัตตฯตำบลบ้านค้อ ในวันเกิดเหตุพอดี ระหว่างนั้นได้รับแจ้งเหตุทางวิทยุ จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าเป็นภรรยาของ ร.ต.ท.วิจิตรฯ มาโวยวายถามหาคนที่โทรศัพท์แจ้งให้สามีของตนมาระงับเหตุ แล้วเกิดการต่อสู้จนบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยบอกว่าจะยิงให้ไส้แตกเลย เท่านั้นยังไม่พอหญิงคนดังกล่าวยังข่มขู่พยาน และเดินเข้าไปต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ด้วย
ส่วนน้องคนที่ถ่ายคลิปได้นำคลิปมาให้ เพราะเห็นว่านายลำเพยไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากถูกยิงเข้าที่หน้าแข้งซ้ายจนทรุดตัวลงนั่ง ไม่สามารถลุกไปต่อสู้ได้ กลับถูกตำรวจเข้าไปใช้เท้าเตะเข้าที่ใบหน้าก่อน 1 ครั้ง และถีบหน้าอีก 1 ครั้ง จากนั้นนายลำเพยก็กอดขาคู่กรณีไว้ แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด นายลำเพยหงายท้องนอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุดังกล่าว
“ผมเห็นคลิปแล้วจึงพยายามติดต่อขอความเห็นจากหลายๆคน แต่ไม่มีใครตอบรับ จึงตัดสินใจนำคลิปลงมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เพื่อขอความเป็นธรรมแก่ผู้ตาย ภายหลังมีคนติดต่อขอให้ลบคลิปผมเห็นว่าถ้าลบแสดงว่าผมผิด จึงไม่ยอมลบคลิปตามที่เขาขอร้อง” นายมานัตฯกล่าว
ขณะเดียวกัน นายกิติศักดิ์ จำปา กำนันตำบลบ้านค้อ ได้พานางทองคำ เคนโสม อายุ 56 ปี พี่สาวของนายลำเพย มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา กับ พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร สารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ พร้อมกับเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นว่า นายลำเพยหรือฟุ้งผู้ตายเป็นหลานชายของตน ปกติเป็นคนไม่ค่อยพูดขยันทำงาน มีข้อเสียคือเวลาเมามักจะโวยวาย แต่จะอาละวาดเฉพาะญาติเท่านั้น วันเกิดเหตุเชื่อว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ในคลิปก็เห็นชัดเจนว่าหลานชายนั่งหมดสภาพไม่มีทางสู้แล้ว จึงไม่ควรจะเข้าไปยิงซ้ำจนตาย
“สำหรับนายตำรวจผู้นี้ มีสารวัตรปราบปรามนำมาฝากไว้ให้อยู่ประจำสายตรวจตำบลบ้านค้อ แรกๆผมไม่ยอมรับเพราะทราบประวัติมาพอสมควร แต่ทนรบเร้าไม่ไหวจึงอนุญาตให้เข้ามาอยู่ประจำสายตรวจฯ คิดว่าอาจจะเปลี่ยนแปลงนิสัยเดิมได้ สุดท้ายก็มายิงหลานชายผมตายทั้งที่เขาไม่มีปัญญาสู้ จึงขอให้ย้ายออกจากพื้นที่โดยด่วนเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี” นายกิติศักดิ์ฯ กำนันตำบลบ้านค้อ กล่าว
ด้าน น.ส.ชไมพร จำปา อายุ 17 ปี ผู้บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุได้ เปิดเผยว่าหลังนายลำเพยเมาอาละวาดแล้ว นางทองคำซึ่งขณะนั้นอยู่อีกบ้านหลังหนึ่ง ได้โทรศัพท์ไปหา ร.ต.ท.วิจิตรฯ ให้มาช่วยระงับเหตุ เพราะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้านนายลำเพยรู้ว่าพี่สาวโทรศัพท์แจ้งตำรวจก็กลัวถูกจับ จึงมาที่รถ จยย.ซึ่งจอดไว้อยู่หน้าบ้านเตรียมสตาร์ทเครื่องขับหนี จังหวะเดียวกับที่ผู้หมวดวิจิตรมาถึงพร้อมกับไม้ง่าม ก่อนจะใช้เท้าถีบรถ จยย.ล้มลง แล้วใช้ไม้ง่ามดันตัวนายลำเพยไว้เพื่อไม่ให้ขัดขืน ซึ่งขณะนั้นนายลำเพยบิดตัวจนไม้ง่ามหัก ร่างของผู้หมวดจนถลาหน้าคะมำ นายลำเพยจึงชักมีดปลายแหลมที่พกมาฟันไปที่ศีรษะจนเลือดอาบ จากนั้น ร.ต.ท.วิจิตรได้สะบัดตัวออกมาก็ชักปืนยิงไปที่ขาของนายลำเพย ทำให้นายลำเพยเดินขากะเผลกแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ห่างจากจุดจอดรถ จยย. ประมาณ 30 เมตร
ร.ต.ท.วิจิตรฯตามมาหมายจะซ้ำ เป็นเวลาเดียวกับที่นายพฤษภา จันทองหลาง อายุ 26 ปี หลานของนายลำเพยเข้ามาร้องห้ามว่า”อย่าทำน้าผม ขอชีวิตไว้เหอะ” ตนเห็นท่าไม่ดีจึงนำโทรศัพท์มาถ่ายภาพนิ่งในขณะที่ผู้หมวดใช้เท้าถีบหน้านายลำเพย ตนจึงเปลี่ยนมาบันทึกเป็นภาพวีดีโอ จึงจะเห็นได้ว่านายลำเพยหมดทางจะต่อสู้แล้ว ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันได้ว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่า จากนั้นตนจึงมอบวีดีโอให้กับนายมานัตนำไปเปิดเผยต่อสาธารณะดังกล่าว