ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง  นางสาวพัชราภรณ์ แก้วโม่ง นายสัตวแพทย์ ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  พร้อมด้วยสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง  เร่งทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของพะยูน จำนวน 2 ตัว คือ พะยูน เพศผู้ อายุประมาณ 5 ปี ลอยตายอยู่กลางทะเลที่บริเวณระหว่างเกาะปู กับเกาะพีพี จ.กระบี่ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  ซึ่งมีขนาดความยาว 2.99 เมตร น้ำหนัก 400 กิโลกรัม  และที่น่าสลดที่สุดคือ พะยูนน้อย เพศผู้ อายุประมาณ 6 เดือน น้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม ความยาวประมาณ 120 เมตร ตายมาแล้วประมาณ 2 วัน ในสภาพที่ยังมีอวัยวะครบถ้วน แต่ท้องแตกไส้ทะลัก โดยพบเกยตื้นตายตัว

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 13.53 น. ของวันที่ 14 กรกฎาคม ในทะเลตรัง แหล่งอาศัยของพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งอนุบาลในระบบเปิดสำหรับ มาเรียม พะยูนน้อยวัย 7 เดือน ที่พลัดหลงกับแม่ที่ จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา
 

โดยทางเจ้าหน้าที่ ทั้งทีมสัตวแพทย์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และทีมสัตวแพทย์จากกรมอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กรมอุทยานฯ  ได้รับแจ้งขณะที่ นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่เกาะลิบง เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานดูแลการอนุบาล มาเรียม  โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า พบพะยูนตายลอยน้ำอยู่บริเวณแหลมจูโหยกับเกาะนก ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ไม่ไกลจากแหล่งอนุบาล มาเรียม มากนัก   ทำให้รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เร่งลงเรือเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง สัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สัตวแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำซากพะยูนน้อยขึ้นฝั่งและนำไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กันตัง และนำซากพะยูนส่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง เพื่อให้ทีมแพทย์ได้ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย  ซึ่งขณะนี้ต้องรอการสรุปผลการผ่าพิสูจน์อย่างเป็นทางการของทีมสัตวแพทย์ที่จะต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบต่อไปว่า พะยูนทั้ง 2 ตัวล่าสุดตายลงเพราะสาเหตุใด