คืบหน้าเกี่ยวกับคดี ร.ต.ท.วิจิตร บางปา รองสารวัตรสืบสวน งานป้องกันปราบปรามฯ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจประจำตำบลบ้านค้อ เข้าระงับเหตุนายลำเพย จำปา หรือปุ้ง อายุ 48 ปี  เมาอาละวาดคลุ้มคลั่งจนเกิดการทำร้ายร่างกาย และนายลำเพยถูกหมวดวิจิตรใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยิงเสียชีวิตบนถนนคอนกรีต หน้าบ้านเลขที่ 343 หมู่ 1 บ้านค้อ หมู่ 1 ต.บ้านค้อ และหลังเกิดเหตุญาติได้นำคลิปเหตุการณ์ออกมาเผยแพร่บนโลกโซเซียล พร้อมถามว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะนายลำเพยถูกยิงที่ขาจนล้มทรุดลงกับพื้นหมดหนทางสู้แล้ว และต้องการให้ย้ายตำรวจนายนี้ออกจากพื้นที่โดยด่วน

ซึ่ง พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ที่ 540/2563 ให้ ร.ต.ท.วิจิตร บางปา รองสารวัตร(สืบสวน) สภ.โพนสวรรค์ ไปปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม(ศปก.ฯ) โดยขาดจากตำแหน่งและสังกัดเดิม ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร พนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว ได้แจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้น คือ กระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ยังไม่ได้สอบสวนปากคำผู้ถูกกล่าวหา โดยหมวดวิจิตรอ้างว่า ยังมีอาการมึนที่ศีรษะ ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอำเภอโพนสวรรค์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันที่ 29 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยศรีสัตตนครพนม ได้นำรถมารับศพของนายลำเพยจากห้องเย็นโรงพยาบาลนครพนม ส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต และจะนำกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าสุทธาวาส ต.บ้านค้อ ตามลำดับต่อไป

สำหรับบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 274 หมู่ 1 ต.บ้านค้อ ของนางทองคำ เคนโสม พี่สาวผู้ตาย ยังคงมีญาติพี่น้องแวะมาให้กำลังใจ และปรึกษาในการฌาปนกิจหลังศพเดินทางมาถึง ส่วนบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 343 หมู่ 1 ที่อยู่ติดกับบ้านของนางทองคำ ซึ่งเป็นจุดที่นายลำเพยถูกยิงเสียชีวิตตรงบันไดทางขึ้นบ้านเลขที่ดังกล่าว และยังมีคราบเลือดเปื้อนพื้นถนนอยู่ ภายหลังบันไดนั้นถูกรื้อถอนออกไป

โดยนายบัญชา จำปา อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านและเป็นญาติกับนายลำเพย เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านบอกให้รื้อบันไดออก เพราะเชื่อว่าเป็นบันไดขึ้น-ลงของภูตผีปีศาจ คนโบราณบอกว่าไม่ดี

นอกจากนี้ ก็ตัดต้นไม้ที่อยู่ใกล้บันไดออกด้วย โดยนายบัญชาให้เหตุผลว่าเวลากลางคืนมีผู้คนผ่านไปมา อาจจะเห็นพุ่มไม้นี้เหมือนคนยืนอยู่ อาจจะคิดว่าเป็นวิญญาณของนายลำเพยที่ไม่ยอมไปไหน จึงตัดทิ้งเพื่อไม่ไห้เกิดความหวาดกลัว

ส่วนตนหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้กลัวอะไร เพราะมีความสนิทสนมกับนายลำเพยมาตั้งแต่เล็ก เป็นคนขยันทำมาหากิน ถ้าไม่เมาจะไม่ค่อยพูดจากับใคร แต่ถ้าเมาเหล้าก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง จะอาละวาดเฉพาะญาติพี่น้องเท่านั้น และไม่เคยทำร้ายใคร รู้สึกตกใจที่เห็นญาติถูกยิง โดยในขณะนั้นไม่มีทางต่อสู้ขัดขืนได้