นางบี อายุ  49 ปี  ลูกสาวคนกลาง  ยายเอ (นามสมมุติ) วัย 80 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลยายเอ เล่าว่า ปกติยายเอ เป็นคนขยัน เที่ยวเก็บพืชผักริมรั้ว ไปขายในตลาดนัดใกล้บ้านทุกวันศุกร์ ส่วนในวันที่ไม่มีตลาดนัด ก็จะทำข้าวต้มมัด และข้าวเหนียวต้ม เร่ขายตามร้านขายข้าวแกง บริเวณจุดพักรถสี่แยกนาโหนด อ.เมือง  จ.พัทลุง ซึ่งในวันเกิดเหตุ ยายเอ ออกไปจากบ้านเพื่อไปขายข้าวต้มมัด และข้าวเหนียวต้ม ในช่วงเวลาประมาณ 10 โมงกว่า ตามปกติ จนกระทั่งมาทราบอีกทีว่า ถูกคนล่อลวงไปข่มขืน  ตอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตามที่บ้าน
 
ด้านยายเอ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ขณะที่ตนเองกำลังเร่ขายข้าวต้มมัด และข้าวเหนียวต้ม อยู่บริเวณร้านขายข้าวแกง ก็ได้เจอกับชาย อายุ 50 กว่า ปี ซึ่งนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้าน ได้พยายามชวนคุย และอ้างว่ารู้จักคนในหมู่บ้านของตนหลายคน พร้อมบอกว่า ตอนเล็กๆ ตนเคยอุ้ม เขาบ่อยๆ พูดคุยกันอยู่นาน จนกระทั่งชายคนดังกล่าวบอกว่า จะเหมาขนมของตน โดยเหมาทั้งหมด จะจ่ายเงินให้จำนวน 2,000 บาท แต่ตนต้องซ้อนท้าย รถจยย. นำขนมไปส่งบ้านญาติ ในพื้นที่ ต.ท่าแค จึงซ้อน จยย. ชายคนดังกล่าวไป  แต่แทนที่ชายคนดังกล่าวจะพาไปบ้านญาติของเขา กลับเลี้ยวเข้าไปในสวนปาล์มน้ำมัน แล้วจอดรถตรงบ้านที่กำลังก่อสร้างในป่าสวนปาล์มน้ำมัน ตนเห็นท่าไม่ดี จะวิ่งหนี แต่ชายดังกล่าว ยึดคอเสื้อตนไว้ พร้อมลากเข้าไปในบ้าน แล้วลงมือข่มขืน โดยขณะข่มขืน ได้ใช้มือปิดปากตนไว้ พร้อมข่มขู่ ไม่ให้ขัดขืนไม่เช่นนั้นจะทำร้ายร่างกาย 
 
ยายเอ บอกด้วยว่า ขณะเกิดเหตุ ตนรู้สึกตกใจกลัวเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร โดยหลังข่มขืนเสร็จ ชายคนดังกล่าวได้เอาเงินในกระเป๋า ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการขายของ และเตรียมไว้ทอนให้กับลูกค้า ไปเกือบ 2,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไป ส่วนตนก็ได้วิ่งลัดทุ่งนาไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ ชาวบ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ
 
ยายเอ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้รู้สึกเจ็บไปทั้งตัว และอยู่ด้วยความหวาดระแวง ไม่กล้าที่จะอยู่บ้านเพียงลำพัง พร้อมยืนยัน ว่า จำหน้าคนก่อเหตุได้อย่างแม่นยำ
 
ขณะที่เจ้าของร้านขยายข้าวแกง เล่าว่าชายคนดังกล่าวมาทานข้าวที่ร้านตลอด แต่ไม่บ่อย และทุกครั้งที่มาที่ร้าน จะมีลักษณะคล้ายคนเมามาทุกครั้ง ส่วนในวันเกิดเหตุ เห็นยายเอ กับชายคนดังกล่าว นั่งคุยกันที่โต๊ะหินอ่อนหน้าร้านนานเกือบชั่วโมง และชายคนดังกล่าว ยังเลี้ยงข้าวยายด้วย แต่ไม่รู้ว่าทั้งสองคนออกจากร้านไปตอนไหน เพราะเป็นช่วงเที่ยง ลูกค้าในร้านเยอะ
 
อย่างไรก็ดีกลุ่มญาติของยายเอ ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยด่วน