เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"อบต.ไล่โว่" ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่นา หลังประสบภัยแล้งจนไม่สามารถปลูกข้าวได้


30 ก.ค. 2563, 16:03



"อบต.ไล่โว่" ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่นา หลังประสบภัยแล้งจนไม่สามารถปลูกข้าวได้




วันนี้ 30 ก.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บ้านสะเนพ่อง หมู่ที่ 1 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ พร้อมด้วย นายอุทัย ขันทอง หน.ปภ.จ.กาญจนบุรี สาขาทองผาภูมิ เดินทางลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางให้ความช่วยเหลือชาวนาในพื้นที่บ้านสะเนพ่อง ที่ประสบปัญหาไม่มีน้ำทำนา หลังจากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้น้ำในลำห้วยธรรมชาติไม่มีน้ำเนื่องจากฝนไม่ตก จนส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 50 ครอบครัว ที่เคยทำนาปลูกข้าวไว้กิน ไม่สามารถปลูกข้าวได้ แม้บางคนจะพยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยการนำเครื่องสูบน้ำจากลำห้วยที่มีน้ำ แต่ก็ไม่สามารถสู้ค่าน้ำมันไหว จึงได้ร้องขอให้ อบต.เข้ามาช่วยเหลือ

 

นอกจากนั้น ชาวบ้านบางคนต้องปล่อยให้ต้นกล้าที่เพาะไว้ในแปลง ซึ่งอยู่ในช่วงที่ต้องนำไปดำในนาแล้ว แต่ชาวบ้านกลับต้องปล่อยให้ต้นกล้ายืนต้นแห้งตาย เนื่องจากไม่มีน้ำที่จะมาทำนา ซึ่งวิกฤติภัยแล้งในปีนี้นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 50  ปีที่ผ่านมาขณะที่นายสมยศ พุ่มไพรวัลย์ ชาวนาบ้านสะเนพ่อง ซึ่งมีที่นากว่า 15 ไร่ ต้องปล่อยที่นาให้รกร้าง เนื่องจากไม่มีน้ำทำนา โดยปกติเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน จะมีน้ำที่เกิดจากฝนที่ตกลงมาไหลลงมาจากภูเขาไหลเข้ามาในที่นา ซึ่งเป็นที่ดอนในอดีตปริมาณน้ำมากสามารถทำนาได้ตลอดมา ด้วยวิตกว่าจะไม่มีข้าวไว้บริโภคในปีหน้า นายสมยศ พุ่มไพรวัลย์ จึงพยายามนำน้ำประปาภูเขาของหมู่บ้านมาใช้ในการไถนาและดำนา แต่ปริมาณน้ำก็ไม่เพียงพอ ประกอบกับเกรงเพื่อนบ้านจะตำหนิ จึงจำเป็นต้องหยุดทำนา โดยทำการไถและดำนาได้ประมาณ 1 ไร่เท่านั้น ปัญหาที่ตามมาภายหลังจากดำนาแล้ว สภาพนาที่ขาดน้ำเนื่องจากไม่มีนำเติมเข้าไปในนา ส่งผลให้ต้นข้าวที่ปักดำไปได้กว่า10วันเริ่มยืนต้นตาย

 

ด้านนายสมชาย  วุฒิพิมลวิทยา นายก อบต.ไล่โว่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังจากลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาจากชาวบ้านว่า หลังจากทราบปัญหาทาง อบต.ไล่โว่ ได้ลงพื้นที่ เพื่อสำรวจพื้นที่นาในตำบลไล่โว่ ที่ได้รับผลกระทบไม่มีน้ำทำนาเบื้องต้นพบว่ามีพื้นที่นากว่า 1,000  ไร่ ที่ชาวบ้านไม่สามารถทำนาได้ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านสะเนพ่อง หมู่ 2 บ้านกองม่องทะ หมู่ 4บ้านไล่โว่-สาละวะ หมู่ 5 บ้านทิไล่ป้า และหมู่ 6 บ้านจะแก การช่วยเหลือได้แยกเป็น 2 ส่วน คือ

 

1.พื้นที่นาที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำหรือลำห้วยต่างๆ อบต.จะประสาน ปภ.จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ และช่วยเหลือน้ำมัน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถทำนาได้ 2.พื้นที่นาที่เป็นที่ดอน ไม่มีแหล่งน้ำที่จะทำนาได้ อบต.จะดำเนินให้การช่วยเหลือเยียวยา ตามระเบียบของทางราชการ เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนในกลุ่มนี้ ทั้งนี้จะเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากหากชาวบ้านไม่สามารถทำนาได้ จะทำให้ไม่มีข้าวบริโภคในปีหน้า ทั้งนี้ข้าวถือเป็นสิ่งสำคัญของชาวบ้านในตำบลไล่โว่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ที่ดำรงวิถีชีวิตอยู่ในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้วยการปลูกข้าวไว้บริโภค

 

ด้านนายอุทัย ขันทอง หน.ปภ.จ.กาญจนบุรี สาขาทอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภายหลังจากได้รับการร้องขอจากทางอบต.ไล่โว่ ก็ได้รีบเดินทางลงพื้นที่ เพื่อดูสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือชาวบ้านที่นี่ โดยเบื้องต้นจะเร่งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ทั้งนี้ที่สำนักงาน ปภ.สาขาทองผาภูมิ มีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีปัญหาในเรื่องการขนส่ง เนื่องจากที่นี่สภาพเส้นทางที่เป็นภูเขาและในพื้นที่ไม่มีระบบชลประทาน จำเป็นต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก ที่ขนย้ายง่ายและเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ คาดว่าภายใน1-2วันจะสามารถนำเครื่องสูบน้ำ เข้ามาให้ชาวบ้านใช้สูบน้ำเข้านา เพื่อให้ชาวบ้านสามารถทำนาได้ต่อไป

 

ทั้งนี้ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี นอกจากตำบลไล่โว่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งจนชาวบ้านไม่มีน้ำทำนาแล้ว พบว่ายังมีบางพื้นที่ในตำบลหนองลู และตำบลปรังเผล ที่ประสบปัญหาฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล จนชาวนาไม่สามรถทำนาได้เช่นกัน

 

 



 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.