เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่  29 ก.ค. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ บก.ปอท. น.ส.สายสุนีย์ ทองสัมฤทธิ์ อายุ 30 ปี (พี่สาวซึ่งเป็นผู้ปกครอง) ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้พา ด.ญ.เอ นามสมมุติ (น้องสาว) อายุ 13 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ศศิพันธ์ คงเอียด รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. กรณีโดนแฮกเฟซบุ๊ก และ ปลอมเฟซบุ๊กเอาไปคอมเม้นต์ในลักษณะดูถูกเหยียดหยาม บลูลี่น้องเนยแม่ค้าไลฟ์สดจนเสียใจร้องไห้

น.ส.สายสุนีย์ เปิดเผยว่า น้องเอ ได้บอกตนว่าเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อบัญชี Nantiya Togsamtir ที่เปิดเล่นมาประมาณ 3 ปี ถูกคนร้ายแฮกไป ไม่สามารถกู้คืนได้ ตนจึงช่วยรายงานปิดให้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายตามมาในภายหลัง แต่ปรากฏว่าคนร้ายได้ไปแสดงความเห็นในไลฟ์สดของน้องเนย แม่ค้าเด็กออนไลน์ขายสบู่ ในทางเสียหายจนเป็นข่าวออกสื่อฯ สำนักข่าวต่างๆ เมื่อ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา เช่น

"ด.ญ.14 ปี น้ำตาคลอ โดนบูลลี่กลางไลฟ์สด"  
"ชาวเน็ตใจร้าย แชตบูลลี่หน้าตา "น้องเนย" แม่ค้าตัวน้อย ไลฟ์สดขายของ"
"เด็ก ม.2 ไลฟ์สดขายสบู่-ครีมทถูกบลูลี่ รุมเหยียดสีผิว" 

ตนจึงพา น้องเอ ไปแจ้งความลงประจำวันที่ สภ.เขาหินซ้อน สภ.อ.ฉะเชิงเทรา บช.2 กับ ร.ต.อ.ฤธายุทธ คงอุตส่าห์ รอง สว.(สอบสวน) เมื่อวันที่ 27 ก.ค. เพื่อแสดงความบริสุทธื์ใจว่าไม่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการแสดงความเห็นลักษณะบูลลี่ดังกล่าวแต่อย่างใดพร้อมกับได้ติดต่อแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ตัวน้องเนยทราบ ซึ่งทางน้องเนยได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.สระแก้ว ไว้แต่วันแรกๆ แล้ว แต่ปรากฏว่า คนร้ายกลับทำเฟซบุ๊กปลอมโดยใช้ชื่อและรูปน้องเอ ก่อนจะเอาไปข่มขู่น้องเนยอีกครั้ง 

วันนี้ตนจึงได้พาน้องเอเดินทางมาแจ้งความ ปอท.ให้ช่วยเหลือสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตนเชื่อมั่นว่าน้องสาวไม่ได้กระทำการในลักษณะบลูลี่ตามที่ถูกกล่าวหาแน่นอน จึงอยากจะมาพิสูจน์ให้ชัดเจน ซึ่งทางตำรวจ บก.ปอท.กก.1 ได้ตรวจสอบให้ก็พบว่าในช่วงที่มีการไลฟ์สดของน้องเนย เฟซบุ๊กดังกล่าวถูกคนร้ายแฮกเอาไป
หลังเกิดเรื่องนี้น้องสาวตนแทบจะไม่ได้เรียน โดนรุมด่าว่าเสียๆ หายๆ สารพัดโดยไม่รู้ว่าน้องตนไปทำจริงหรือไม่

อยากจะฝากบอกคนบนโซเชียลก่อนจะไปด่าใครก็ขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าเขาทำแบบนั้นจริงไหม ตนยืนยันเชื่อมั่นว่าน้องตนไม่ได้ทำอย่างแน่นอน ด้านตัวน้องเอ ปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องโกรธเคืองอะไรกับน้องเนยมาก่อน ข่าวนี้ก็ทราบมาจากผู้ปกครองบอก ยืนยันว่าไม่ได้ไปคอมเม้นต์บลูลี่น้องเนยจริงๆ 

พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้รับแจ้งลงประจำวันไว้ก่อนประสานฝ่ายสืบสวนตรวจสอบเพื่อรวบรวมหลักฐานประสานให้ สภ.ฉะเชิงเทรา และ สภ.สระแก้ว ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

หลังพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. น.ส.สายสุรีย์ ได้พา ด.ญ.เอ เดินทางไปศูนย์บริการประชาชน กระทรวงดีอีเอสชั้น 6 อาคารบี เพื่อปรึกษาหาทางแก้ปัญหาคนร้ายปลอมเฟซบุ๊ก ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำว่าการสืบสวนจับกุมคนร้ายปลอมเฟซฯ เป็นหน้าที่ตำรวจ แต่ถ้าพบว่ามีคนปลอมเฟซฯ เป็นตัวเราเปิดๆ ปิดๆ ก็ต้องหมั่นตรวจสอบเจอก็รายงานปิดไป ส่วนที่ผู้เสียหายสงสัยว่าคนร้ายปิดเฟซฯ แล้วแต่แมสเซนเจอร์ (อินบล็อค) ยังเห็นเปิดใช้สื่อสารได้อยู่เพราะแอปฯ สองตัวนี้แยกจากกันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนั่นเอง