วันนี้ ( 15 ก.ค.62 ) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้เป็นการพิจารณาตามวาระปกติ ไม่มีการอนุมัติงบประมาณส่งท้าย แต่เป็นการรับทราบความก้าวหน้าการทำงานของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เนื่องจากเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ก่อนที่รัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาสานงานต่อ และมีการเห็นชอบถ้อยแถลงการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบงานด้านเยาวชน ที่จะมีการประชุมวันที่ 16 ก.ค.นี้ ที่ สปป.ลาว รวมถึงขอความเห็นชอบเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 52 ที่จะมีการประชุมในวันที่ 30 ก.ค.นี้

        นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) ภายหลังพิธีเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฎิญานตนแล้วเสร็จ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต่อทันที เพื่อหารือถึงระเบียบขั้นตอนการทำงาน ให้เกิดความชัดเจน ในฐานะที่ทุกคนเป็นรัฐบาลที่ต้องร่วมกันทำงานต่อไป และจะชี้แจงงานให้ทุกคนรับทราบว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำสิ่งใดไว้บ้าง และรัฐบาลใหม่ต้องสานต่อในเรื่องใด เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมย์ที่วางไว้ นอกจากนี้จะมีการออกสารในนามหัวหน้า คสช. ไปยังประชาชนและหน่วยงานต่างๆ เนื่องจาก คสช.ต้องสิ้นสุดการปฎิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นการขอบคุณในการทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลา 5 ปี ซึ่งมีความก้าวหน้าในหลายเรื่อง

        นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายถือเป็นกรอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะต้องระมัดระวังในหลายมาตรการ ซึ่งนโยบายต้องสอดคล้องกับแผนงานด้านความมั่นคง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนแม่บท ยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฎิรูปประเทศ โดยจะมีทั้งนโยบายเร่งด่วนและแผนระยะยาว ทั้งนี้ รัฐบาลจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในวันที่ 25 ก.ค. นี้ ซึ่งขณะนี้ร่างนโยบายรัฐบาลถึงมือตนเองแล้ว พร้อมขอให้ทุกคนเข้าใจว่าการแถลงนโยบาย ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่เป็นการที่สมาชิกจะเสนอความคิดเห็นต่างๆ เพื่อให้นโยบายเกิดความครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น ซึ่งฝากสมาชิกให้พิจารณาขอบเขตในส่วนนี้ด้วย เพราะที่ผ่านมาเห็นว่าหลายอย่างยังไม่ตรงกับการทำหน้าที่ ทั้งนี้ส่วนตัวเคารพและให้เกียรติทุกคน ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาลและประชาชน

        ส่วนจะมีการบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรมนูญในนโยบายรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีอะไร และให้รอดูนโยบายที่จะออกมา แต่ทั้งนี้ยืนยันว่า สนับสนุน ให้มีการแก้กฎหมายทุกกฎหมายที่มีปัญหา ซึ่งต้องว่าไปตามกระบวนการตามขั้นตอน ไม่ได้ไปขัดแย้งกับใคร เพราะวันนี้เป็นรัฐบาลของประเทศ