เรียกความเห็นใจจากผู้คนในโลกสังคมออนไลน์ไปตาม ๆ กัน ต่อโพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ พิษณุกัณร์ สุรินทร์ ซึ่งได้เผยเรื่องราวที่ได้บังเอิญพบกับคุณยายท่านหนึ่ง พาหลาน ๆ ไปนั่งทรุดอยู่บนสะพานแม่น้ำชี ในจังหวัดมหาสารคาม เนื่องจากเครียดที่ได้ไปค้ำประกันรถจักรยานยนต์ให้กับเพื่อนบ้าน เจ้าของโพสต์เล่าว่า เหตุการณ์นี้ที่สะพานแม่น้ำชี ผมและพี่เสื้อขาวขับผ่านมาเจอยายกับหลาน 4 คน นั่งตากแดดอยู่กลางสะพานแม่น้ำชี ผมนึกว่ารถพ่วงข้างยายพัง เลยจอดถาม สงสารเด็กนั่งตากแดดแรงมาก 

ซึ่งได้ความว่าพากันมาจากอำเภอกันทร ไปคุยคดีความ ยายบอกว่าคดีหมดหนทางไปแล้ว เลยพาหลาน 4 คน มานั่งอยู่ที่นี่ คิดอะไรไม่ออก ผมและพี่เสื้อขาวกลัวยายคิดมากเกินไป สงสารเด็กที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ต้องมารับกรรม เลยประสานตำรวจมาคุยเพื่อหาทางออก จากนั้นผมได้ไปส่งยาย และหลานที่สภ.ย่อยท่าขอนยาง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เจ้าของโพสต์ได้ออกมาอัพเดทความคืบหน้าของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าทุกอย่างจบลงแล้วด้วยดี  โดยเมื่อเช้า ตนได้ให้ทีมน้องจิตอาสาประสานงานไปติดต่อกับผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ยายแกไปค้ำประกัน ว่าตนยินดีชำระหนี้ให้ แต่ขอให้ตามยึดรถมาจากผู้ใช้รถเพื่อยกให้เป็นสมบัติของหลาน ๆ ยาย ซึ่งทางผู้จำหน่ายรถได้แจ้งผ่านผู้ประสานงานว่า เจ้าของรถได้มาชำระเงินแล้วส่วนหนึ่ง ยังคงค้างอยู่ประมาณ 1 หมื่น เพียงแต่ผู้ครอบครองรถค้างชำระหนี้นานมากถึง 8 เดือน แต่ถ้าเตือนทีจ่ายที มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร บริษัทก็มีหนังสือเตือนไปตามปกติ เหมือนหนังสือเตือนหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้ค่างวดรถของเราทั่วไป ส่วนถ้าหากไม่มีการชำระหนี้จริง ๆ บริษัทก็ฟ้องยึดรถตามหลักปฏิบัติทั่ว ๆ ไป จริง ๆ เรื่องคดีความไปไม่ถึงยาย หรือผู้ค้ำประกัน เว้นแต่ผู้ครอบครองไม่สามารถคืนรถได้เท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่ และบริษัทจำหน่ายรถแห่งนี้ ตนเห็นเขาช่วยเหลือกิจการส่วนรวมของมหาสารคามอยู่เรื่อย ๆ เจ้าของบริษัทค่อนข้างใจบุญ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หนังสือเตือนอาจทำให้คุณยายตกใจ เลยไปศูนย์ดำรงค์ธรรม แต่อาจได้รับการชี้แจงว่าเป็นหนี้ในระบบ ไม่ใช่หนี้เงินกู้นอกระบบจึงไม่สามารถช่วยได้ แกเลยยิ่งตกใจประมาณนั้น ขณะนี้ตนยังติดต่อคุณยายไม่ได้ เพื่อบอกว่าเรื่องจบแล้ว แต่ก็ได้มอบหมายทีมจิตอาสาไปแล้ว ว่าบ่ายนี้ให้ไปแจ้งยายตามนี้ และมอบเงินทุนการศึกษาให้เด็ก ๆ ปลอบใจไม่ให้เตลิดไปมากกว่านี้