วันที่ 1 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับชาวบ้านภายในหมู่บ้านสมใจนึก 5 ถนนประจวบพัฒนา เขตเทศบาลเมือง ตำบลประจวบ อำเภอเมืองประจวบ หลังจากที่พันตำรวจโท ชุมพล บางจันทร์ทึก รองผู้กำกับปราบปราม สภ.เมืองประจวบ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบ และจับกุมตัวนายวิรัตน์ ทายา อายุ 37 ปี หลังก่อเหตุเผารถจักรยานยนต์ของนางสาวปริศนา ทายา ผู้เป็นน้องสาว ซึ่งได้ให้ยืมมาไว้ใช้งานทิ้งที่บริเวณข้างหมู่บ้าน เหตุเพราะสตาร์ทรถไม่ติด ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่ามีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) จึงได้จับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 31 ก.ค.63 ที่ผ่านมา

คืบหน้าล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุได้พบกับชาวบ้านและภรรยาผู้ก่อเหตุ คือนางสาววาสนา เหมือนสุวรรณ อายุ 40 ปี หรือปุ๋ม กำลังนั่งพูดคุยกับเพื่อนบ้าน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีเพื่อนบ้านให้ความช่วยเหลือ โดยนำข้าวปลาอาหารมาให้ และจะช่วยกันแบ่งปันหาเสื้อผ้ามาให้สวมใส่ เนื่องจากถูกสามีนำสื้อผ้าทั้งหมด และอุปกรณ์เครื่องครัวไปเผาทิ้งพร้อมกับรถจักรยานยนต์ โดยเหลือเพียงเสื้อผ้าที่กำลังสวมใส่ในร่างกายเพียงชุดเดียวเท่านั้น

จากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่เผารถจักรยานยนต์ พบว่าภายในกองขี้เถ้าพบเศษเสื้อผ้าจำนวนมากรวมไปถึง ถ้วย ชาม อุปกรณ์เครื่องครัวอื่นๆ ถูกนำมากองรวมเพื่อเป็นเชื้อเพลิงเผาไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ โดยโครงรถจักรยานยนต์ได้ถูกชาวบ้านนำเอาไปขายเศษเหล็กที่ร้านรับซื้อของเก่าแล้ว

นางสาววาสนา เหมือนสุวรรณ หรือปุ๋ม อายุ 40 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนพึ่งคบกับสามีคนนี้มาได้ประมาณเกือบปีตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าเป็นคนขยันไม่กินเหล้าเมายา และประกอบกับตนเองเป็นหม้ายจึงได้ตกลงใช้ชีวิตร่วมกันที่บริเวณบ้านร้างซึ่งถูกธนาคารยึดในหมู่บ้าน แต่มาในระยะหลังสามีเหมือนกลายเป็นคนสติไม่ดี ขี้หึง และชอบตบตีตนเอง ห้ามไม่ให้ตนออกจากบ้านไปไหน โดยหวาดระแวงว่าจะไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งทุกครั้งเวลาตนไปคุยกับ เพื่อนบ้านที่เป็นผู้ชาย เวลากลับเข้ามาในบ้านก็จะถูกตบตีทะเลาะกัน และถูกกล่าวหาว่าแอบไปเอากับคนอื่น ไปสมัครรับจ้างทำงานก่อสร้างที่ไหนก็ไม่มีใครอยากรับ เพราะเกิดปัญหาทุกครั้งเวลาที่ไปทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชาย เวลาไปทำงานที่ไหนก็จะต้องตามไปด้วยทุกครั้ง ทุกวันนี้ไม่สามารถออกไปรับจ้างทำงานที่ไหนได้ และไม่มีเงินใช้ มิหนำซ้ำถูกสามีนำเสื้อผ้าทั้งหมดไปเผาทิ้งพร้อมกับรถจักรยานยนต์จนหมดเกลี้ยง เหลือเสื้อผ้าเพียงชุดเดียวที่สวมใส่เท่านั้น ซึ่งที่สามีก่อเหตุครั้งนี้เป็นเพราะตนหนีไปแอบที่บ้านของเพื่อนบ้านในซอยอื่นเนื่องจากกลัวสามีใช้เหล็กตีอีก สามีหาตนไม่เจอจึงได้นำรถจักรยานยนต์ พร้อมเสื้อผ้าที่ตนซักตากไว้ทั้งหมดไปเผาทิ้งดังกล่าว ซึ่งหลังจากสามีถูกจับตนและชาวบ้านรู้สึกสบายใจ ไม่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง และอึดอัดใจ ซึ่งในวันจันทร์นี้ตนก็จะเริ่มออกไปรับจ้างทำงานก่อสร้างต่อเหมือนเดิม โดยจะขอให้เพื่อนบ้านช่วยพาไปส่งที่ทำงาน เพราะรถจักรยานยนต์ถูกเผาไม่มีใช้แล้ว