วันนี้ (3 ส.ค. 63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายศิลปชัย เรือนสูง นายอำเภอสวี, นายกิตติกรณ์ เทพอยู่อำนวย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชุมพร ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลนาสัก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร จากอิทธิพลพายุโซนร้อน ซินลากู ที่ทำให้เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่ สร้างความเสียหาย แก่อาคารบ้านเรือน และทรัพย์สิน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีลมกระโชกแรงทำให้โรงเรียนไทยพัฒนาพังเสียหาย ต้องประกาศหยุดการเรียนการสอน

โดยคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้ลงพื้นที่ที่ โรงเรียนไทยพัฒนา หมู่ที่ 7 ตำบลนาสัก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เพื่อตรวจดูความเสียหาย ซึ่งโรงเรียนไทยพัฒนา ได้รับความเสียหายจากเหตุวาตภัย ทำให้อาคารเรียนหลายหลังพังเสียหาย ไม่สามารถทำการเรียนการสอนได้ ต้องประกาศให้นักเรียนหยุดเรียน เพื่อทำการซ่อมแซม รวมถึงเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กนักเรียน และในเบื้องต้น นายอำเภอสวี พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทาน กว่า 100 คน ได้ร่วมกันทำความสะอาด และซ่อมแซมอาคารเรียนที่เสียหายจากวาตภัยดังกล่าว ให้โรงเรียนสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ

สำหรับเหตุวาตภัยดังกล่าว เกิดจากอิทธิพลพายุโซนร้อน ซินลากู บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีแนวโน้มเคลื่อนตัวผ่านประเทศเวียดนามตอนบนและลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดชุมพรมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และเกิดวาตภัย ขึ้นในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2563 โดยสถานการณ์ปัจจุบัน คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และจากการสำรวจเบื้องต้น มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 6 อำเภอ 28 ตำบล 135 หมู่บ้าน มีพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1,180 คน 427 ครัวเรือน ไม่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ อาคารสิ่งปลูกสร้าง บ้านพักอาศัย พังเสียหาย 141 หลัง, วัด 1 แห่ง และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายหลายแห่ง โดยเฉพาะต้นทุเรียนที่เตรียมจะเก็บผลผลิตโค่นล้มพังเสียหาย ผลทุเรียนร่วงจากแรงลม เป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายนับล้านบ้าน

นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องลงช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วน และในครั้งนี้ได้ลงมามอบสิ่งของช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค ของใช้ต่างๆ แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ สำหรับบ้านที่พังเสียหาย ได้เร่งให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านที่พังเสียหาย จากเหตุวาตภัยดังกล่าว และหากขาดเหลือสิ่งใดให้แจ้งไป ยินดีให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป