เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"นักเรียกร้องสิทธิฯ" หลากหลายทางเพศ ร้องกสม.แก้ปมผู้ต้องขังข้ามเพศ ไม่ได้รับฮอร์โมนเกิดปัญหาสุขภาพ


15 ก.ค. 2562, 18:33



"นักเรียกร้องสิทธิฯ" หลากหลายทางเพศ ร้องกสม.แก้ปมผู้ต้องขังข้ามเพศ ไม่ได้รับฮอร์โมนเกิดปัญหาสุขภาพ




   เมื่อเวลา 13.30 น. วัน 15 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่าที่ ห้องรับรอง 604 ชั้น 6  สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อาคารรัฐประศาสนภักดี  ศูนย์ราชการ ฯ แจ้งวัฒนะ กทม. นายศิริศักดิ์ ไชยเทศ นักกิจกรรมอิสระเรื่องสิทธิมนุษยชน เพื่อคนที่มีความหลากหลายทางเพศ และพนักงานบริการ และนายนพนัย ฤทธิวงศ์ เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กรมูลนิธิเพื่อพนักงานบริการ นำรายชื่อเครือข่ายภาคประชาชน 134 ชื่อ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ผ่านนางอังคณา นีละไพจิตร เพื่อขอให้ศึกษาและประสานกรมราชทัณฑ์ ให้นักโทษในเรือนจำที่เป็นคนข้ามเพศได้รับสิทธิในการเข้าถึงฮอร์โมน

 

 

 

 



นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันในบางเรือนจำจะมีการแยกนักโทษที่เป็นคนข้ามเพศโดยคนที่ได้รับการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว ให้อยู่รวมกับนักโทษหญิง ส่วนคนที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัดแปลงเพศ ยังมีการขังรวมกับนักโทษชาย เพียงแต่มีการแยกห้อง แต่ทั้งหมดยังมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงฮอร์โมน โดยทางกรมราชทัณฑ์จะมองในมุมเรื่องความสวยงาม จึงเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น ทั้งที่ข้อเท็จจริงนั้น คนที่ยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศ ก่อนเข้าเรือนจำมีการเริ่มใช้ฮอร์โมน เมื่อต้องหยุดกินฮอร์โมนก็จะทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน ขณะที่คนที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว ไม่มีลูกอัณฑะที่เป็นตัวผลิตฮอร์โมน ก็จะเหมือนผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทอง ก็ต้องได้รับฮอร์โมน ที่ก็เป็นตัวเดียวกับที่คนข้ามเพศใช้อยู่ แต่หากขาดฮอร์โมนก็จะมีปัญหาเรื่องอารมณ์และสุขภาพ ผมร่วง น้ำหนักเพิ่มขึ้น บางรายอารมณ์แปรปรวนจนอาจเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาท จึงอยากให้กสม. ช่วยเหลือและจัดการปัญหาเหล่านี้ ให้ผู้ต้องขังที่เป็นคนข้ามเพศสามารถเข้าถึงฮอร์โมน และบริการสาธารณสุขด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ให้ผู้ต้องขังทุกกลุ่มได้มีส่วนร่วมในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องความรุนแรงและสุขภาพในเรือนจำ สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน และความหลากหลายทางเพศ แก่เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และทุกคนในเรือนจำ ให้กรมราชทัณฑ์มีนโยบายให้ทุกเรือนจำปฏิบัติกับผู้ต้องขังทุกเพศตามหลักสิทธิมนุษยชน

 

 

 

“จากสถิติเมื่อพ.ค. ปี 61 ในจำนวนผู้ต้องขังทั่วประเทศประมาณ 364,000 คน มีคนข้ามเพศที่เป็นผู้ต้องขัง 4,362 คน ซึ่งฮอร์โมนสำหรับคนข้ามเพศถือเป็นสิ่งจำเป็น เหมือนกับผ้าอนามัยที่เป็นของจำเป็นสำหรับผู้หญิง และการที่ผู้ต้องขังที่เป็นคนข้ามเพศ ไม่สามารถเข้าถึงฮอร์โมนได้ ยังกลายเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่เรือนจำแสวงหาผลประโยชน์ จากการสัมภาษณ์ผู้ต้องขัง พบว่าบางคนบอกว่าหากต้องการใช้ฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด ที่ซื้อได้ในราคา 30 บาท เจ้าหน้าที่เรือนจำไปหามาให้ได้ แต่จะคิดราคาสูงถึง 500 บาท โดยใช้แลกเปลี่ยนกับสินค้าในสหกรณ์ที่ผู้ต้องขังมีสิทธิได้รับ” นายศิริศักดิ์ กล่าวและมองว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นปัญหาหนึ่งจากการที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรับรองเพศสภาพ 

นอกจากนี้ นายศิริศักดิ์ ยังได้ขอให้คณะกรรมการสิทธิฯ ตรวจสอบกรณีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ ไม่อนุญาตให้นักศึกษาที่เป็นผู้ชายข้ามเพศ และผู้หญิงข้ามเพศ แต่งเครื่องแบบนักศึกษาและชุดครุยวิทยฐานะบัณฑิตตามเพศสภาพ โดยอ้างว่าหากแต่งกายตามเพศสภาพจะถือว่าแต่งกายไม่สุภาพเรียบร้อย และอาจทำให้ถูกหักคะแนนความประพฤติ ซึ่งอาจทำให้หมดสิทธิ์สอบ

 


ด้านนางอังคณา กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น กรณีคนข้ามเพศก็จะมีการแยกห้องให้ รวมถึงสับเปลี่ยนเวลาในการอาบน้ำ แต่เรื่องการใช้ฮอร์โมน ทางเรือนจำยังมองเรื่องความสวยความงาม ไม่ใช่เรื่องของสุขภาพ ทางกสม.จึงขอที่จะไปศึกษาก่อน เพราะก่อนหน้านี้ เคยแต่ประสานกับทางเรือนจำกรณีผู้ต้องขังที่ต้องรับยาต้านเชื้อเฮชไอวี จนทางเรือนจำยอมให้ผู้ต้องขังเก็บยาไว้กับตัว เพื่อที่จะได้ทานยาตรงตามเวลา สำหรับกรณีการแต่งกายของนักศึกษาข้ามเพศ ทางกสม.เคยมีข้อเสนอไปหลายครั้ง และในหลายสถาบันการศึกษาก็มีการเปิดกว้างให้นักศึกษาแต่งกายตามเพศสภาพ ขนาดรัฐสภาก็มีการอนุญาตให้ส.ส.แต่งกายตามเพศสภาพได้ ซึ่งปัญหาที่มีการร้องเรียนก็จะมีการประสานไปยังมหาวิทยาลัยต่อไป






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.