วันนี้ 05 ส.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า คลิปวีดีโอ ต่อไปนี้ เป็นคลิปวีดีโอที่ทางทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี บันทึกภาพระหว่างการเดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจ ให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่อสช. และดูแลสุขภาพให้กับประชาชน ในพื้นที่บ้านที่ไล่ป้า และบ้านสาละวะ ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี ซึ่งถือเป็นพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร อยู่ภายในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยในระหว่างที่รถกระบะ 4 ประตูคันสุดท้ายที่บรรทุกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเต็มคัน กำลังขับลงเนินดินที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน จนพื้นถนนกลายเป็นดินโคลน จู่ๆรถก็ได้เกิดเสียหลักพลิกตะแคงไหลลงมาจากเนินดิน ท่ามกลางความตื่นตกใจของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่ยืนรอลุ้นให้รถคันดังกล่าวผ่านพ้นบริเวณดังกล่าวมาได้

 

ดร.ศุภกร สุขประสิทธิ์ สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี ซึ่งเป็นผู้นำทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี เดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจภายในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.15  นาฬิกา ของวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรีใช้รถกระบะจำนวน 4 คัน นำเจ้าหน้าที่ 19 คน เข้าไปปฏิบัติภารกิจ ตามโครงการพัฒนาชุมชน ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งจุดที่เกิดเหตุ เป็นทางลงเนินดินช่วงระหว่างบ้านทิไล่ป้า ดับ บ้านสาละวะ อำเภอสังขละบุรี ซึ่งระหว่างที่รถกระบะคันเกิดเหตุกำลังพยายาม โรงงานดินที่เปียกโชกไปด้วยน้ำฝนรถได้เกิดเสียหลักพลิกตะแคง ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ในรถจำนวน 5 คน ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่ยืนรอลุ้นเหตุการณ์ได้รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อนที่อยู่ภายในรถ โดยพบว่าแต่ละคนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลพกช้ำ หัวปูดบวมกันไปคนละเล็กน้อย โดยหลังจากใช้เวลาอยู่นานก็สามารถ ซ่อมแซมรถที่ได้รับความเสียหายจนสามารถเดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจจนสำเร็จได้ ดร.ศุภกร ได้กล่าวอีกว่า การปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ถือเป็นภารกิจ ที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี ทำกันเป็นประจำ

 

ในช่วงเวลาปกติที่ไม่มีฝนตกการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน แต่ในช่วงที่ฝนตกต่อเนื่องยาวนานเช่นนี้ ทำให้การเดินทางค่อนข้างลำบาก เนื่องจากถนนทางไปยังหมู่บ้านแต่ละแห่ง มีความลาดชัน เมื่อถูกน้ำฝน ที่ตกลงมาต่อเนื่องก็จะกลายเป็นดินโคลนยิ่งทำให้การเดินทางยากลำบากมากขึ้นไปอีก ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางปฏิบัติภารกิจ 2-3 วันในแต่ละครั้ง ซึ่งครั้งนี้นับว่าโชคดีที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขซึ่งอยู่ภายในรถได้รับบาดเจ็บกันเพียงเล็กน้อย จึงไม่มีความสูญเสียใดๆเกิดขึ้น

 

ส่วนเยาวชนบ้านสเนพ่อง ร่วมแรงร่วมใจ เฝ้าระวังน้ำป่า ภายหลังจากเกิดฝนตกติดต่อกันเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว หวั่นน้ำท่วมใหญ่ซ้ำรอยปี 61 ซึ่งหมู่ที่ 1 ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เยาวชนจากศูนย์การเรียนชุมชนศรีสุวรรณสะเนพ่อง (วิถีกะเหรี่ยงทุ่งใหญ่นเรศวร ได้จัดเวรยามมาคอยเฝ้าระวังระดับน้ำในลำห้วยโรคี่ ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวิธีการนำไม้มาปักไว้เพื่อติดตามการขึ้นลงของระดับน้ำ หลังจากฝนได้ตกติดต่อกันเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว ส่งผลให้น้ำในลำห้วยโรคี เริ่มมีสีขุ่นโคลน ระดับน้ำสงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีเศษกิ่งไม้และสวะ ไหลลงมาเป็นระยะๆ

 

โดยเยาวชนกลุ่มนี้ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 30 คน โดยมีนายชาญชัย สังขธิติ ครูของศูนย์การเรียนชุมชนศรีสุวรรณสะเนพ่อง ( วิถีกะเหรี่ยงทุ่งใหญ่นเรศวร)เป็นแกนนำ โดยจะคอยช่วยกันจัดเวรยามคอยเฝ้าสังเกตระดับน้ำร่วมกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน พร้อมทั้งส่งข่าวให้หน่วยงานในพื้นที่ เช่น อบต.ไล่โว่ ฝ่ายปกครอง ทหาร ได้รู้ถึงระดับน้ำในลำห้วยโรคี่ ที่ขึ้น ลง เพื่อประกอบในการพิจารณาการทำงาน การสั่งการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ทั้งนี้หมู่บ้านสะเนพ่องเป็นพื้นที่เสี่ยงที่เคยประสบเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่และได้รับความเสียหายหนัก ในปี พ.ศ. 2561 โดยในพื้นที่ตำบลไล่โว่มี2หมู่บ้านที่เป็นพื้นที่เสียงได้แก่บ้านสะเนพ่องหมู่ที่ 1และบ้านเกาะสะเดิ่ง หมู่ที่ 2 โดยหากเกิดน้ำท่วมในปีนี้ทาง อบต.พร้อมอพยพชาวบ้านขึ้นที่สูงและอพยพ เด็กและสตรีรวมทั้งผู้สูงอายุไปอาศัยชั่วคราวที่ อบต ทั้งนี้ได้บูรณาการการทำงานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ป่าไม้รวมทั้ง ป้องกันภัยจังหวัด ซึ่งเราพร้อมเข้าช่วยเหลือและอพยพชาวบ้านทันที หากเกิดอุทกภัย ในพื้นที่ 2 หมู่บ้านที่เป็นพื้นที่เสี่ยง