เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.62) ขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งของ จ.สุรินทร์ ยังคงความรุนแรงและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง จากฝนที่ทิ้งช่วงมาร่วม 2 เดือน ส่งผลให้ต้นกล้าข้าวเริ่มทยอยเหี่ยวเฉายืนต้นตายกันทุกพื้นที่ แทบทุกอำเภอในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ แม้ว่าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งฐานปฏิบัติการ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ได้ขึ้นบินโปรยสารเคมีเพื่อทำฝนเทียมวันละ 2-3 รอบ มา 1 เดือน แต่ก็ยังพบว่ามีฝนตกลงมาไม่มากเท่าที่ควรเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่อำนวย เมฆมีปริมาณน้อย และมีลมกระโชกเป็นช่วงๆทำให้การโปรยสารเคมีทำฝนเทียมไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรจะเป็น

ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ถึงขั้นวิกฤติหนัก น้ำแห้ง ลดระดับลงมากที่สุด ตั้งแต่มีการสร้างและเปิดใช้อ่างเก็บน้ำ นานกว่า 27 ปี และเป็นอ่างเก็บน้ำหัวใจหลักที่ใช้ผลิตน้ำประปาหล่อเลี้ยง ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และตำบลใกล้เคียงของอ่าง ซึ่งอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงจะต้องใช้เป็นแหล่งน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาถึงเดือนละ 1 ล้าน ลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้พบว่าประมาณน้ำลดลงเหลือเพียงไม่ถึง 2 ล้าน ลูกบาศก์เมตร และจะสามารถใช้น้ำได้อีกประมาณไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้าเท่านั้น จากความจุอ่างทั้งหมด 20.8 ล้าน ลูกบาศก์เมตร

และเมื่อวานนี้(15 ก.ค.62) ได้มีชาวบ้านกระทม ตำบลเฉนียง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ได้รวมตัวกันและร่วมกับผู้ประกอบการโรงน้ำดื่ม นำเครื่องเซ่นไหว้ ประกอบด้วยหัวหมูจำนวน 5 หัว อาหารคาว หวาน และเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อมาใช้ในการประกอบพิธีเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวพื้นเมืองสุรินทร์ ซึ่งจะมีพิธีสวดเพื่อขอพร และอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทวดา ช่วยดลบันดาลให้ฝนตกลงมาให้เต็มอ่าง เพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้อุปโภค บริโภคต่อไป หลังจากประกอบพิธีเซ่นไหว้เสร็จสิ้น