วันนี้ 8 ส.ค. 63 เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายสราวุธ เพชรพนมพร ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง กรอบความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา ต่อการพัฒนา ความสัมพันธ์ผ่านมิติการค้าชายแดน โดยมีนายอดิเทพ กมลเวชช์ รอง ผวจ.สุรินทร์ เป็นผู้กล่าวรายงาน จัดขึ้นโดยคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้รับทราบข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ผ่านกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศในมิติของการค้าชายแดน,เพื่อให้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้รับทราบข้อมูล และข้อเสนอแนะที่หลากหลาย นำไปไปสู่ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ต่อไป โดยมีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ประกอบด้วย นายสราวุธ เพชรพนมพร ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร,นายเกียรติ สิทธีอมร รองประธานคณะกรรมิการการต่างประเทศคนที่ 2 ,นายศุภชัย ใจสมุทร รองประธานกรรมาธิการการต่างประเทศคนที่ 4 และโฆษกคณะกรรมาธิการการการต่างประเทศ อีก 2 คน กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน รวมทั้ง ยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของ จ.สุรินทร์ จำนวน 3 คน คือ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร,นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ และนายชูศักดิ์ แอกทอง ก็ได้เข้าร่วมสัมมนา ในการนำเสนอข้อคิดเห็นอุปสรรคปัญหาจากประชาชน ให้คณะกรรมมาธิการต่างประเทศทราบอีกด้วย รวมผู้สัมมนา จำนวนทั้งสิ้น 350 คน
นายสราวุธ เพชรพนมพร ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ประเทศไทยและกัมพูชา ได้ธรรมรงความสัมพันฉันมิตรประเทศต่อกันมาอย่างยาวนาน ทั้งสองประเทศได้ช่วยกันเติมเต็มการพัฒนาในภูมิภาคให้เจริญก้าวหน้าในมิติต่างๆอย่างสมบุรณ์ โดยอาศัยกรอบควมมร่วมมือต่างๆที่ไทยและกัมพูชาเป็นสมาชิก อันได้แก่ กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง และกรอบความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา การค้าชายแดนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด เป็นจุดผ่านแดนที่สำคัญที่สุดของ จ.สุรินทร์ ซึ่งจากการรายงานข้อมูลภาวะการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ของสำนักงานพาณิชย์ จ.สุรินทร์ บริเวณชายแดย ณ จุด่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เดือนพฤศจิกายน 2562 มีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 659.01 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการส่งออกและสินค้าส่งออก รวมทัง้สิ้น 511.38 ล้านบาท มูลค่าการนำเข้าและสินค้านำเข้ารวมทั้งสิ้น 147.63 ล้านบาท ดุลการค้าไทยเกินดุลการค้ากัมพูชา มูลค่า รวมทั้งสิ้น 363.75 ล้านบาท
-คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ เล็งเห็นว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเติบโตและขยายตัวอยู่นี้มีความสำคัญอย่างมาก และเป็นช่องทางในการพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างไทย-กัมพูชา ตลอดจนสามารถขยายความร่วมมือในด้านอื่นๆเพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในระดับอนุภูมิภาคและภูมิภาค ดังนั้น คณะกรรมาธิการการต่างประเทศจคึงได้จัดสัมนาในครั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีในการรับทราบข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ผ่านกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศในมิติของการค้าชายแดน นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสอันดีที่คณะกรรมาธิการฯจะได้รับทราบข้อมูล และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อแนวทางในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ต่อไป
-ประธานกรรมมาธิการการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ด่านช่องจอมในอนาคต จากการดูสถิติ ของการส่งออกและนำเข้าในช่งหลายปีที่ผ่านมา จากหลัก 1-2 พันล้าน เป็น 8 พันล้าน ผมเชื่อว่าในอนาคต ด่านช่องจอมจะเป็นอีกด่านหนึ่งที่ ทำรายได้เป็นมูลค่าปีหนึ่งๆหลายหมื่นล้านบาท เพราะช่วงนี้ก็ขึ้นมาแตะ 8-9 พันล้านบาท ในช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน ซึ่งทาง ส.ส.ปกรณ์ มุ่งเจริญพร และอีกหลายท่าน มีความเป็นห่วงและก็จะพยายามผลักดันช่วยกัน ในเรื่องปัญหาและอุปสรรคที่เราได้รับทราบ อย่างเช่นในเรื่องของปศุสัตว์เราได้ฟังข้อมูลหลายๆเรื่องที่เป็นประโยชน์และจะนำกลับไปดำเนินการต่อ