พิธีพระราชทานเพลิงศพ จนท. พิทักษ์ป่าเขาแหลม เสียชีวิตจากน้ำป่าซัดจมดับ
9 ส.ค. 2563, 16:45
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ( 9 ส.ค. 63 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่วัดผาผึ้ง ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ นายภูวดล ป้องสา หรือน้องเกื้อ เจ้าหน้าที่สายตรวจ อุทยานแห่งชาติเขื่อนเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ ขณะกำลังกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจลาดตระเวน และไปติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัวญาติพี่น้อง โดยมี นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายนิพนธ์ จำนงค์สิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 (บ้านโป่ง) นางคณิสรา เชฐบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นอกจากนี้ยังมี นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี นายไพศาล บัวหลวง นายก อบต.ปรังเผล นายนริศ บ้านเนิน ผู้จัดการโครงการพื้นที่อนุรักษ์ในผืนป่าตะวันตก มูลนิธิสืบนาคเสถียร ข้าราชการฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และประชาชน เข้าร่วมพิธีฯ จำนวนมาก
โดย นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิต พร้อมเข้าพูดคุยกับ น.ส.จันจิรา อายุ 26 ปี ภรรยา นายภูวดล ซึ่งทั้งสองมีลูกด้วยกัน 2 คน คือ ด.ญ.ปภัสสร ป้องสา หรือน้องเก้า อายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านท่าดินแดง และ ด.ช.ปกรณ์ ป้องสา หรือน้องไก๊ อายุ 3 ขวบ เรียนอยู่ที่ศูนย์เด็กเล็กบ้านท่าดินแดง หมู่ 1 ต.ปรังเผล โดยได้สอบถาม น.ส.จันจิรา ถึงชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบัน พร้อมเสนอให้เข้าทำงานที่ อช.เขาแหลม ซึ่ง น.ส.จันจิรา ตอบรับด้วยความยินดี แต่ติดปัญหาในเรื่องของสัญชาติ เนื่องจากตนเองยังไม่ได้สัญชาติไทย
นายธัญญา จึงได้ให้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประสาน นายอำเภอสังขละบุรี เพื่อดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวของ นายภูวดล ประกอบด้วย มูลนิธิพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล จำนวน 1 แสนบาท กองทุนสวัสดิการ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวน 5 หมื่นบาท พร้อมกันนี้ นายธัญญา ยังได้มอบเงินส่วนตัวให้กับภรรยา นายภูวดล อีกจำนวน 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังจะมีเงินช่วยเหลือตามระเบียบของกรมอุทยานฯ รวมทั้งจากมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และอื่นๆ อีก รวมแล้วคาดว่าอยู่ที่ประมาณเกือบ 1 ล้านบาท
ส่วนบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะ นายชิน ป้องสา และนางพรพรรณ ป้องสา ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกชายไปแบบกะทันหัน โดยผู้ร่วมงานทุกคนได้ร่วมยืนไว้อาลัยเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิต ที่ทำหน้าที่พิทักษ์รักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าเป็นเวลา 1 นาที
โดย นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีฯ ว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ นายภูวดล ป้องสา ที่ต้องมาจากไปจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งนี้ถือว่ากรมอุทยานฯ เราได้สูญเสียบุคคลที่เป็นกำลังสำคัญไปอีก 1 นาย ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดขึ้น ในส่วนของความช่วยเหลือ ทางกรมอุทยานฯ พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยจะเร่งรัดในเรื่องของสวัสดิการและกองทุนต่างๆ มาช่วยเหลือครอบครัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยเหลือภรรยาผู้เสียชีวิตให้เข้าทำงานที่อุทยานฯ เขาแหลม แต่เนื่องจาก น.ส.จันจิรา มีเพียงบัตรชุมชนบนพื้นที่สูง จึงได้ประสาน นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้
ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนได้เน้นย้ำผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอว่า สิ่งสำคัญในการปฏิบัติงานคือ ทำอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ของเราทุกคนปลอดภัย ถึงแม้เราจะสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ แต่หากเจ้าหน้าที่ของตนสูญเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บแม้แต่รายเดียว ตนถือว่าภารกิจของเราล้มเหลว ตนจึงเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นอันดับแรก ซึ่งตนจะได้กำชับในที่ประชุมผู้บริหาร-หัวหน้าหน่วยงานอีกครั้ง เพราะไม่อยากให้เกิดความสูญเสียเหมือนเช่นครั้งนี้อีก และขอฝากผู้บังคับบัญชากำชับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนายในเรื่องของการทำงานขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง
“สำหรับทรัพยากรธรรมชาติเป็นของพี่น้องคนไทยทั้งชาติ ไม่ใช่เป็นของเฉพาะกรมอุทยานฯ เราเพียงทำหน้าที่ดูแลรักษา ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติให้คงอยู่คู่กับพี่น้องคนไทยรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป” นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าว
ทั้งนี้ นายภูวดล ป้องสา หรือน้องเกื้อ อายุ 27 ปี เข้าทำงานในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตำแหน่งบุคคลภายนอกปฏิบัติงานให้ส่วนราชการ มาแล้วเป็นระยะเวลา 7 ปี ได้ประสบอุบัติเหตุถูกน้ำป่าไหลหลากขณะว่ายข้ามแม่น้ำรันตี เพื่อนำเชือกไปผูกกับต้นไม้ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ เพื่อให้เพื่อนร่วมงานข้ามไปได้อย่างปลอดภัย แต่ปรากฏว่าเมื่อว่ายน้ำไปถึงกลางแม่น้ำกลับถูกกระแสน้ำที่ไหลวนดูดร่างลงไปใต้ท้องน้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อนร่วมงานที่อยู่บนฝั่งจำนวน 5 นาย ได้พยายามดึงเชือกเพื่อช่วยเหลือชีวิตแต่ไม่สามารถดึงร่างของนายภูวดลขึ้นมาได้ สุดท้าย นายภูวดล ได้เสียชีวิตลงในที่สุด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 5 ส.ค.แต่เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ในช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับเส้นทางสันหนอกวัว-บ้านกองม่องทะ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่ารอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก กับ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยมีแม่น้ำรันตีเป็นแนวแบ่งพื้นที่ นอกจากนั้น นายภูวพล ป้องสา ผู้เสียชีวิต เป็น 1 ในทีม กู้ภัยของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมชุดแรก ที่เดินเท้าเข้าไปค้นหานักท่องเที่ยวตกเขาบริเวณน้ำตกร้อยวา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า น้ำตกป่งป๊ง เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 จนสามารถพบนักท่องเที่ยวทั้ง 4 คน และสามารถพานักท่องเที่ยวทั้งหมดออกจากป่ามาได้อย่างปลอดภัย โดยเหตุการณ์ในครานั้น นายภูวพล ป้องสา หรือ ที่เพื่อนๆ และผู้ร่วมงานเรียกชื่อเล่นกันว่า เกื้อ รับหน้าที่แกะรอยร่วมกับชาวบ้านกองม่องทะ ที่อาสานำทาง เนื่องจากมีความชำนาญในการใช้ GPS ซึ่งภารกิจการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้ง 4 ครั้งนั้นได้รับคำชื่นชมจากทุกฝ่าย และเป็นภารกิจการกู้ชีพ 72 ชม. ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ชีพกู้ชีพของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ให้เป็นที่ยอมรับและรู้จักเป็นอย่างดี แต่สุดท้าย นายภูวดล ป้องสา ก็มาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว นับว่า นายภูวดล ป้องสา เป็น หน.ชุดที่รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างดีที่สุดจนตัวเองต้องเสียชีวิตในครั้งนี้