ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายบุญส่ง มั่งมี อายุ 59 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 6 ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ได้เดินทางมาร้องผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา พร้อมได้หอบเอกสารไปแจ้งความและหลักฐานต่างๆ ให้สื่อมวลชนได้ดู หลังจากถูกนางสาวบุญมา ชาวจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นพวก 18 มงกุฎ ได้หลอกให้แต่งงานโอนเงินเกือบ 200,000 บาท โดยตนได้รู้จักกับ นางบุญมา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการติดต่อทาง facebook และเกิดการชอบพอกัน โดยนางบุญมา เป็นหม้ายหย่าร้างกับสามีได้ประมาณ 14 ปี ส่วนตนเองภรรยาเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีกว่า หลังจากคบหากันได้ระยะหนึ่ง จึงมีการพูดคุยเพื่อมาสู่ขอตามประเพณี ซึ่งนางบุญมา ได้เรียกค่าสินสอด จำนวนเงิน 40,000 บาท ทองคํา 1 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ตนได้เดินทางมาที่บ้านเจ้าสาว ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาขลุง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เพื่อมาทำการบ้าน แต่นางบุญมา อนุญาตให้ตนเข้าบ้านเพื่อไหว้บรรพบุรุษเพียงคนเดียว อ้างว่าเป็นประเพณีคนมอญ หลังจากเสร็จพิธี ตนพร้อมด้วยนางบุญมา ก็เดินทางกลับจังหวัดอุทัยธานี ใช้ชีวิตอยู่กินเป็นผัวเมียตามปกติ ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 นางสาวบุญมา ได้บอกกับตนว่าพี่ชายและพี่สาวไม่ยอมให้ทำพิธีแค่ผูกข้อมือ จะต้องจัดงานแต่งและงานเลี้ยงให้เป็นเรื่องเป็นราวให้สมศักดิ์ศรี ตนจึงได้เชิญแขกผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายอำเภอ นายก.อบต กำนันและแขกผู้มีเกียรติเป็นจำนวนมาก ส่วนฝ่ายหญิงก็อ้างว่าจะเหมารถทัวร์ 2 ชั้นจำนวน 1 คัน และรถตู้อีก 4 คัน มาร่วมงาน ตนจึงได้มีการจ้างดนตรีมาเล่น พร้อมด้วยโต๊ะจีน และเครื่องดื่มจำนวนมาก โดยฝ่ายหญิงอ้างว่าจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดแต่ให้ตนสำรองไปก่อน โดยกำหนดจัดงานในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 หลังจากนั้น นางบุญมา ก็ออกอุบาย แกล้งโทรศัพท์ ว่าพี่เขยลื่นล้มในห้องน้ำเสียชีวิต ทำให้แขกทางบ้านไม่สามารถมาร่วมงานได้ และจะต้องรีบเดินทางไปร่วมงานศพพี่เขย หลังจากนั้นตนก็รู้สึกแปลกๆ จึงได้ให้ลูกสาวโทรสอบถามผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 16 ตำบลเขาขลุง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ในพื้นที่ของ นางบุญมา ว่ามีเหตุการณ์เสียชีวิตหรือไม่ ก่อนจะทราบว่าไม่มีใครชีวิตตามที่กล่าวอ้างในเบื้องต้น โดยผู้ใหญ่ยังอธิบายให้ฟังอีกว่า พฤติกรรมของ นางบุญมา ชอบหลอกลวงคนไปทั่ว ในลักษณะที่ให้ผู้ชายมาไหว้ผี แล้วก็เรียกร้องค่าสินสอดทองหมั้น ก่อนจะไม่แต่งงานด้วย โดยมีผู้เสียหายมาหลายรายแล้ว แล้วอยากฝากเตือนผู้เสียหายให้ออกมาแจ้งความกันให้เยอะๆ เพื่อที่นั่งบนมาจะได้ไม่มีที่ยืนในสังคม เพราะพฤติกรรมแบบนี้สร้างความเดือดร้อนปราศรัยความรักของคนนำไปเป็นเครื่องมือหากิน ตนจึงแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนางบุญมาอย่างถึงที่สุด

นอกจากนี้ยังพบว่า นางบุญมา ยังมีการไปหลอกลวงเงินอีกหลายราย และในหลายพื้นที่ซึ่ง นายบุญศรี ไชยปาละ อายุ 68 ปี ชาวบ้านตำบลคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ก็เป็นหนึ่งในเหยื่อดังกล่าว เล่าว่า ซึ่งในวันที่ 9 มีนาคม 2563 ได้มีการไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ว่านางบุญมา ได้ใช้เอกสารเท็จ โฉนดที่ดิน ภบท. 5 เนื้อที่ 12 ไร่ 73 ตารางวา มาขอกู้เงิน 67,000 บาท โดยมีการปลอมลายเซ็นมารดาที่เสียชีวิต ไปแล้วประมาณ 8 ปี หลังครบกำหนดสัญญาได้มีการทวงถาม แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด นานนับเดือน หลังจากนั้นก็ได้เงียบหายไปไม่สามารถที่จะติดต่อได้ จึงมาแจ้งความใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย ฉ้อโกง, หลอกลวงประชาชน, และปลอมแปลงเอกสารของบุพการี เพื่อมากู้เงินทำให้ตนหลงเชื่อ เป็นหลักประกันในการกู้เงิน พฤติกรรมของนางบุญมา จะพยายามมาหาเป็นสะใภ้หลอกให้อยู่กินด้วย หลังจากนั้นจะสร้างความสนิทสนมทำให้ไว้ให้เชื่อใจกัน จึงทำให้ยอมปล่อยกู้เงินต่างๆ โดยในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร จากการตรวจสอบพบว่ายังมีผู้เสียหายอีกประมาณ 3 ราย ที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน ฝากถึงสังคมคนเราไว้ใจกันไม่ได้เลยในยุคนี้สมัยนี้ถึงแม้จะเป็นญาติสนิทชิดเชื้อสายเลือดเดียวกันก็ยังทำกันได้ จึงต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดมากขึ้น

 

 

นางสุนทร สอนเตจา อายุ 66 ปี เปิดเผยว่า ตนในฐานะพยานเป็นคนค้ำเงินกู้ โดย นางบุญมา ขอกู้เงินก่อนจำนวน 40,000 บาท โดยตนเป็นคนเชื่อมโยงให้มากู้กับ นายบุญศรี จึงได้เป็นตัวกลางพูดคุยให้ ก่อนจะส่งมอบเงินให้ และมารับเพิ่ม 20,700 บาท รวมเป็นเงินกู้ทั้งหมด 67,000 บาท พฤติกรรมเขาเป็นน้องสะใภ้ของแฟน บอกว่าไม่มีที่อยู่ก็เลยมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน ได้ประมาณ 2 เดือน ขนาดยายยังถูกยืมเงิน 14,000 บาท ก็ยังไม่ได้คืน โดยนางบุญมา จะมีพฤติกรรมต้มตุ๋นหลอกลวงชาวบ้านไปเรื่อยๆ ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อ และนางบุญมา ชอบอ้างว่าจะไปขายที่ดินจำนวน 12 ไร่ ที่จังหวัดราชบุรี ได้ประมาณ 8 ล้านบาท หากขายที่ได้จะนำมาใช้จึงเกิดความเชื่อใจกัน

 

 

ด้าน ร.ต.อ.ยุทธกร สิทธิกัน รองสารวัตรสอบสวน สภ. อ. คลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากมีพฤติกรรมหลอกลวงชาวบ้านไปทั่วทำให้เสียทรัพย์ แต่ผู้เสียหายเพิ่งเข้ามาแจ้งความ คาดว่าจะออกหมายเรียกไปที่บ้านนางบุญมา ไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อที่จะได้มารับทราบข้อกล่าวหา และพูดคุยเจรจากัน หากออกหมายเรียกจำนวน 2 ครั้งแล้ว ไม่ยอมติดต่อทางพนักงานสอบสวน ก็จะต้องออกหมายจับต่อไป เพราะถือว่าเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก