ตร.ชุมพร แถลงผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด พร้อมเงินสด 2 ล้านบาท
11 ส.ค. 2563, 20:43
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.ชุมพร, พล.ต.พรชัย อินทนู ผบ.มทบ.44, พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร และ พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร, พ.ต.ท.ณัฐชัย พิณวานิช รอง หน.ชุดปราบปรามยาเสพติด กองกับกับตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ชุดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ประกอบด้วย นายพิทักษ์ ผุดสุวรรณ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ที่ 14 ตำบลหงส์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นายธนกฤษ พิริยะงษ์สิริ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ที่ 7 ตำบลร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพีรภัทร พิริยะพงษ์สิริ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 215 ตำบลริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย และนางสาวเขมิกา เอี่ยมสะอาด อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 421 ตำบลร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมของกลางประกอบด้วย ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 2,000,000 บาท ยาบ้า จำนวน 4,330 เม็ด ไอซ์ จำนวน 215.24 กรัม รถยนต์เก๋ง จำนวน 4 คัน โทรศัพท์มือถือและสมุดธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง มาแถลงผลการจับกุมต่อสื่อมวลชน
โดย พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.ชุมพร เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ชุดปราบปรามยาเสพติด กองกับกับตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ได้สืบทราบว่า นายพิทักษ์ ผุดสุวรรณ เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญของจังหวัดชุมพร จึงได้ทำการตรวจสอบจนสามารถจับกุมได้พร้อมด้วยไอซ์ชนิดเกล็ดใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 118.54 กรัม และยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกชนิดกดปิดเปิด จำนวน 11 ถุง รวมยาบ้า จำนวน 2,080 เม็ด
ซึ่งจากการจับกุมในครั้งนี้ทาง นายพิทักษ์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ค้ายาเสพติดจริง และค้ามานานหลายปี จนมีฐานะดีขึ้นตามลำดับ โดยยาเสพติด ไม่ว่ายาบ้าหรือไอซ์ ก็จะรับมาจากแหล่งใหญ่ ใน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่รอยต่อจังหวัดชุมพรโซนเหนือ โดยในเบื้องต้นทางตำรวจได้กล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และตรวจยึดทรัพย์เพื่อตรวจสอบตาม พ.ร.บ.มาตรการ ฯ จำนวน 3 รายการ คือรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีเทา ตอนครึ่ง ติดแผ่นป้ายทะเบียน บท 9582 ชุมพร, สมุดบัญชีธนาคารออมสิน และบัตรเอทีเอ็มธนาคารออมสิน รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 500,000 บาท
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า จากการจับกุมในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความร่วมมือจาก นายพิทักษ์ ที่จะช่วยขยายผล โดยติดต่อขอล่อซื้อยาเสพติด จากแหล่งใหญ่ให้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการขอลดโทษหนักเป็นเบา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 21.30 น. ได้มีนายธนกฤษ หรือ ไก่ พิริยะพงษ์สิริ อายุ 45 ปี พร้อมด้วย นายพีรภัทร หรือพี พิริยะพงษ์สิริ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นพ่อลูกกัน ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กท6895 กรุงเทพมหานคร มายังจุดนัดพบบริเวณริมถนนสายเพชรเกษมเขตรอยต่อ จ.ชุมพร-ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวก่อนทำการขอตรวจค้นในรถ พบไอซ์ชนิดเกล็ดใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักรวมประมาณ 96.70 กรัม และยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกชนิดกดปิดเปิด จำนวน 11 ถุง รวมยาบ้า 2,250 เม็ด
พล.ต.ต.วิมล กล่าวต่อว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวสองพ่อลูก เพื่อสอบปากคำ ที่ นายธนกฤษ ผู้พ่อได้เสนอเงินสินบนเพื่อให้ปล่อยตัวไม่ให้ถูกจับกุมคดียาเสพติดดังกล่าว โดยเสนอเงินสินบน 2,000,000 บาท หากรับก็จะให้แฟนนำเงินมาให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นัดหมายจนกระทั่งนางสาวเขมิกา หรือโบว์ เอี่ยมสะอาด อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของ นายธนกฤษ ได้ขับรถยนต์เก๋ง มาที่บริเวณภายในปั้มน้ำมันพีที สาขาพ่อตาหินช้าง ถนนเพชรเกษม (ขาขึ้น) พื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมยื่นเงินสดจำนวนดังกล่าวให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นายธนกฤษ และ นางสาวเขมิกา ว่า ร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ตาม ป.อาญา ม.มาตรา 144 และแจ้งข้อกล่าวหานายธนกฤษและนายพีระภัทร ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งตรวจยึดเงินสด 2,000,000 บาท ที่นำมาติดสินบน และทรัพย์เพื่อตรวจสอบตาม พ.ร.บ.มาตรการ ฯ คือรถยนต์เก๋ง จำนวน 4 คัน, สมุดบัญชีธนาคารออมสิน และบัตรเอทีเอ็มธนาคารออมสิน รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1,000,000 บาท ไว้ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชุมพร หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า ขบวนการค้ายาเสพติด แก๊งนี้ เป็นรายใหญ่รายหนึ่งของภาคใต้ โดยใช้พื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจุดกระจายยาเสพติด โดยผู้ต้องหาแก๊งนี้ จะมีอิทธิพลและมีเครือข่ายมาก ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี ลงไปจนถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีเงินหมุนเวียนอาทิตย์ไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท และเงินที่นำมาเพื่อแลกติดสินบน จำนวน 2,000,000 บาทนั้น ทางผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นเงินที่ได้มาจากกาค้ายาเสพติดอีกด้วย