กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุพบศพ นายรเมศ จันทะโก อายุ 20 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำของบ้านเลขที่ 364/2 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งแพทย์เวร โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาได้ทำการชันสูตรศพไม่พบชีพจรและไม่พบร่องรอยบาดแผลใดๆ ก่อนจะให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เตรียมนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง แต่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจะห่อศพ จู่ๆนายรเมศได้กลับมาหายใจและลืมตากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ท่ามกลางความตกใจ ของทั้งแพทย์ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนจะช่วยกันนำตัวนายรเมศส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านของนายรเมศ โดยได้พบกับพ่อแม่พี่สาวของนายราเมศรวมถึงบรรดาญาติๆที่มารวมตัวกันอยู่ที่บ้านของนายรเมศกันอย่างแน่นขนัด โดยนายรเมศ ที่ไหนตอนนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 13.30 นาฬิกา ขณะที่ตนได้กวาดบ้านชั้นบนเสร็จ เกิดรู้สึกปวดท้องจึงเดินมาเข้าห้องน้ำตามปกติ แต่เกิดอาการท้องผูกถ่ายไม่ออก นั่งอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมงจนรู้สึกอ่อนเพลียหมดแรงและหายใจไม่สะดวก จึงตัดสินใจเอาหัวไปพิงกับกำแพงห้องน้ำเพื่อจะพักร่างกายสักครู่ จากนั้นก็หมดสติจำอะไรไม่ได้เลย มาเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่ได้ยินเสียงคนหลายคนตะโกนเอะอะโวยวาย แต่ตนก็ยังไม่สามารถลืมตาหรือพูดอะไรได้ ซึ่งในขณะนั้นตนเองรับรู้ได้ทุกอย่างทั้งช่วงที่มีการพลิกตัวของตนไปมาและยกร่างของตนใส่ผ้าห่อศพ ต้นมาลืมตาได้ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังห่อศพและเตรียมจะนำร่างของตนไปเข้าโรงเย็นเพื่อเก็บรักษาและรอส่งไปชันสูตร โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหันมาเห็นจนลืมตาจึงแจ้งให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ทำการตรวจร่างกายของตนอีกครั้ง เมื่อพบว่ามีชีพจรจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลจนทำให้ตนรอดชีวิตมาได้ดังกล่าว นายรเมศยังได้กล่าวว่า ช่วงที่หมดสติไปนั้นไม่ได้ฝันหรือเห็นสิ่งใด เป็นเหมือนคนที่หลับลึกเท่านั้น ที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยมีอาการวูบเช่นนี้มาก่อน อาจจะมีอาการเหนื่อยล้าจนลืมตาไม่ขึ้นบ้างเป็นบางครั้ง แต่ครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด และตนรู้สึกโชคดีมากที่ได้ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง