วันนี้ (14 ส.ค.63) ผู้สื่อข่าว ONB news เพิ่มเติมว่า หลังฝนตกหนักในพื้นที่ อ.นายูง จ.อุดรธานี ตั้งแต่คืนวันที่ 13 สิงหาคม ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าของวันที่ 14 ส.ค.63 ส่งผลให้เกิดมวลน้ำมหาศาลจากบนภูเขา บริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำโสม – นายูง ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ศาสนสถาน พืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ อ.นายูง จ.อุดรธานี ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ บ้านนาแค ต.นาแค อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี วัดปริมาณน้ำฝนได้ 200.0 มม. และบ้านเพิ่ม ตำบลนาแค อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี วัดปริมาณน้ำฝนได้ 116.0 มม. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ส่วนราชการและอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน

 

ล่าสุดเวลา 14.00 น. สถานการณ์ขณะนี้เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ฝนยังคงตก ในพื้นที่ โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี ได้รายงานสรุปเหตุอุทกภัยครั้งนี้ว่า จากเหตุมีบ้านเรือนราษฎรบ้านก้อง หมู่ 1, 6, 9, และ 12 บ้านนาแค หมู่ 1, 3, 5, และ 7 ในพื้นที่ได้รับผลกระทบทรัพย์สินเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ส่วนพื้นที่การเกษตรน้ำท่วมขัง เส้นทางคมนาคมขนส่งถูกตัดขาด ตลอดจนสิ่งสาธารณประโยชน์ (อ่างเก็บน้ำห้วยปลดตอนบน) ได้รับความเสียหายเนื่องจากอ่างฯ แตกเพราะมีปริมาณน้ำฝนตกลงมาก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตมี

นายสมภพ ร่วมญาติ นายอำเภอนายูง เปิดเผยว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนเนื่องจากอ่างเก็บน้ำห้วยปดตอนบน หมู่ 9 ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ความจุ 200,000 ลูกบาศก์เมตร ได้แตกพบสันเขื่อนพังทลาย มีความกว้าง 25 เมตร ลึก 10 เมตร โดยโครงการชลประทานอุดรธานี ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมสำรวจความเสียหายและช่วยประเมินงบประมาณในการซ่อมแซมสันอ่างเก็บน้ำ พร้อมเป็นหน่วยงานสนับสนุนทั้งเครื่องจักรและบุคลากร ในการทำงานซ่อมบำรุงอ่างเก็บน้ำให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

 

ล่าสุดนายวันชัย จันทร์พร และนายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้านวังเลา และพื้นที่ ต.บ้านก้อง และ ต.นาแค ต.บ้านก้อง โดยพบว่าที่บ้านทุ่งศรีทอง ม.9, บ.นาตูม ม.5 , บ้านนาคำ ม.6 และ บ.นาคำน้อย ม.10 ที่น้ำป่าไหลเอ่อล้นจากลำห้วยราง ขึ้นท่วมถนนสายบ้านก้อง-อ.นายูง และบ้านเรือนชาวบ้าน วัด โรงเรียน ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร รถยนต์ไม่สามารรถผ่านไปมาได้ จนทำให้ชาวบ้านขนข้าวหนีน้ำท่วมไม่ทัน