"พ่อค้าข้าวหมกไก่" ขโมยจักรยานยนต์ชาวบ้าน ตระเวนชิงทรัพย์สาว อ้างเงินไม่พอใช้
15 ส.ค. 2563, 08:50
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่าได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.ชัชชีวิน นาคมูสิค สวป สภ.บ่อผุด รายงานว่า เกิดเหตุมีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ ใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ ภายในซอยเขาพระ หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.สวัสดิ์ ทัลวัลลิ์ รอง สวป ร.ต.อ.นรินทร์ ถิ่นแก้ว รอง.สวป.ร.ต.อ.ธวัฒชัย เทพหนู รอง.สว.สส.และกำลังตำรวจสืบสวน ได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมตรวจสอบภาพวงจรปิด ภายในซอย เขาพระ และพบภาพวงจรปิด ขณะที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ พบว่าคนร้ายเป็นชายไทย คล้ายกับคนร้ายตามที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย โดยคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีแดง คนร้ายมีหนวดเครา จึงได้ตั้งจุดสกัด และกระจายกำลังติดตามภายในซอยเขาพระ
และสามารถจับกุมนายอุดร หรือบังดร นิยมเดชา อายุ 36 ปี ภูมิลำเนา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ขับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่น สปาร์ค สี ทะเบียน ขคร-921 สุราษฎร์ธานี มีท่าทางพิรุธ เข้าไปในป่าละเมาะ ในซอยเขาพระ ทางตำรวจจึงได้ติดตามและจับกุมได้ดังกล่าว พร้อมยึดกระเป๋าสะพายของกลาง เป็นของผู้หญิงสีขาว 1 ใบ ภายในมีเงินสดจำนวนหนึ่ง บัตรประจำตัวประชาชน ของผู้หญิงระบุชื่อ น.ส.มณฑาทิพย์ เสวกวัง อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช และบัตรประจำตัวพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และบัตร ATM และบัตรเครดิตการ์ด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน
บังดรรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุชิงทรัพย์ น.ส.มณฑาทิพย์ ตนเองได้ไปขโมยรถจักรยานยนต์ ของชาวบ้านที่จอดอยู่ ภายในซอยวัดบางรักษ์ หมู่ 4 ต.บ่อผุด มา จากนั้นได้ขับตระเวณหาเหยื่อ โดยมีมีดปลายแหลม 1 ด้าม เป็นอาวุธ และขับรถจักรยานยนต์ตระเวณหาเหยื่อ มาจนถึงหน้าศรีผลาคลีนิก ภายในซอยเขา พระ เห็น น.ส.มณฑาทิพย์ สะพายกระเป๋าเดินคนเดียว จึงได้จอดรถจักรยานยนต์ แล้วเอามีดไปจี้ บังคับให้ ผู้เสียหายส่งกระเป๋า แต่เหยื่อเกิดตกใจกลัวและวิ่งหนีและล้มจนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงได้แย่งกระเป๋าไป จากนั้นขับรถเข้าไปในป่าละเมาะเพื่อตรวจดูว่าในกระเป๋ามีของมีค่าอะไรบ้าง พร้อมนำมีดปลายแหลมไปทิ้ง และขับรถออกมา จนถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ นายอุดร หรือบังดร ผู้ต้องหา ยังให้การรับสารภาพอีกว่า “ ตนมีอาชีพ ขายข้าวหมกไก่ อยู่ที่หน้าธนาคารอิสลาม หมู่ 6 ต.บ่อผุด ก่อนหน้านี้มีรายได้ดี เเต่หลังจากเศรษฐกิจพัง เพราะพิษโควิด ทำให้เงินขัดสน ขายไม่ดี และบ้านต้องเช่า รถยนต์ต้องผ่อน ลูกเข้าโรงเรียน ทำให้เกิดภาวะเครียด จึงได้ตัดสิ้นใจก่อเหตุดังกล่าว”
ต่อมาทาง พ.ต.ท.ชัชชีวิน นาคมูสิค สวป พร้อมกำลังตำรวจสืบสวน ได้นำตัวผู้ต้องหา ไปที่จุดเกิดเหตุหน้าศรีผลาคลีนิก และพบ น.ส.มณฑาทิพย์ ผู้เสียหาย ยืนรอเจ้าหน้าที่ ในสภาพที่แขนซ้าย และแขนขวา มีผ้าก๊อซพันแผล และที่เข่าขวามีรอยถลอ ยืยรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่นำผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ขณะที่ น.ส.มณฑาทิพย์ เสวกวัง เห็นผู้ต้องหา และจำหน้าคนร้ายได้ จึงได้ยืนยันพร้อมชี้ตัว และเปิดเผยว่า “ขณะที่ตนกำลังเดินเพื่อเข้าบ้านพักที่อยู่ใกล้ๆกัน สังเกตุคนร้ายรายนี้ ขับรถจักรยานยนต์เวียนอยู่หลายรอบแล้ว และก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ขับมาปาดหน้าตน และลงจากรถจักรยานยนต์ พร้อมนำมีดปลายแหลมมาจี้ และขู่ว่า ให้ส่งกระเป๋าให้ ด้วยความตกใจกลัวจึงได้วิ่งหนี เพื่อเข้าไปขอความช่วยเหลือภายในคลีนิก แต่คนร้ายวิ่งไล่ตามพร้อมมีด จึงเกิดตกใจกลัวและหกล้ม พร้อมส่งกระเป๋าให้คนร้าย เพราะหากขัดขืนไม่แน่ใจว่าจะถูกทำร้ายหรือไม่ และประกอบกับในกระเป๋าไม่มีทรัพย์สินที่มีค่ามากนัก จึงส่งกระเป๋าให้คนร้าย ดีกว่าเจ็บตัว พร้อมกันนี้ผู้เสียหายยังได้กล่าวชื่นชม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมคนร้ายได้รวดเร็ว ผู้ต้องหากล่าว
ขณะที่ทางตำรวจได้ตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหารายนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีประวัติก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้ว ก่อนจะย้ายเข้ามา เปิดร้ายขายข้าวหมกไก่ บนเกาะสมุย ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์ของผู้อื่นโดยมีและใช้อาวุธ (มีด) โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นจากการถูกจับกุม เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และลักทรัพย์หรือรับของโจร” คอตกเข้าคุกทิ้งลูกเมียเผชิญชะตากรรม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ดำเนินคดีต่อไป