ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีที่ มีการนำเสนอข่าวในบางสื่อ ว่ามีแม่บ้านรายหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ลงเก็บตัวอย่าง ไข่ปลาริวกิว ในแผงตลาดสำเภาทอง เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หลังพบมีจำหน่ายไข่ปลาปลอม ทั้งแผงเป้าหมายและแผงอื่นๆ พบมีเงื่อนงำ ประมงระบุอาจทำเลียนแบบ เร่งส่งแล็บกรมประมง และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบโดย น.ส.พัทธนันท์ ชมพูพล แม่บ้านในหมู่บ้านวาสนา เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้ซื้อไข่ปลาริวกิว หรือปลามะยง มาจากตลาดสำเภาทอง ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 1 ขีด ราคา 80 บาท ไปทำแกงส้ม แต่พบความผิดปกติคล้ายกับมีส่วนผสมของวัตถุอย่างอื่น จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งต่อมาประมงอำเภอ ฯ เข้าตรวจสอบพบว่า มีความผิดปกติไปจากไข่ปลาทั่วไป คาดว่าอาจเป็นไข่ปลาที่ทำเลียนแบบขึ้นแต่ยังไม่ฟันธงว่าเป็นไข่ปลาปลอม จะต้องนำส่งตรวจที่ห้องแล็บของกรมประมง และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อแยกสารต่างๆ ออกมาว่ามีอะไรบ้าง โดยใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
 

 

ต่อมา น.ส.เยาวเรศ เปรียวปลอด อายุ 28 ปี เป็นแม่ค้าขายส่งไข่ปลาในตลาดสดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้โพสต์ข้อความ ใน Facebook ว่า สวัสดีคะ น้องขอความเห็นพี่ๆ ในนี้นะคะ ว่าดูข่าวไข่ปลาริวกิว ปลอมแล้วคิดยังไง คือไข่ปลาริวกิวที่ลงข่าวคือยังไง น้องใหม่เป็นคนส่งเองคะแล้วพี่สาวน้องเอาไปขายให้ลูกค้าแบบเม็ดร่วงที่น้องใหม่เอาออกจากฟักเองกับมือ ออกข่าวใหญ่โตทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ความจึงว่าไข่ปลอมจริงไหม แต่ลูกค้าทุกคนที่ซื้อไม่เคยมีปัญหา มีคนนี้คนเดียวซื้อไป 80 บาท ต้มนานเกินแล้วแข็ง ถ้าใครดูข่าวแล้วน่าจะรู้นะคะว่าคนต้ม ต้มนานไปจนแข็งแล้วมาบอกไข่ปลอม คือถ้าพี่สาวน้องไม่ถูกพักงานไม่ให้ขายของ น้องคงไม่เดือดร้อน เพราะของที่แผงมีราคาทั้งนั้นคะ อาทั้งนั้นคะ หยุดงานนานไปทำให้ขาดรายได้แถมของที่ซื้อมาก็เสียหาย โปรดพิจารณาด้วยนะคะดูข่าว เสพข่าวอย่างมีสติ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.เยาวเรศ พร้อมกับกล่าวว่า ขอชี้แจงว่าตนเองขายไข่ปลามาร่วม 10 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาสำหรับ ลูกค้ารายดังกล่าว คาดว่าต้มไข่ปลานานจนเกินไปทำให้ไข่ปลาแข็งแล้วไปโพสต์จนเกิดดราม่าในโลกโซเชียล ว่าเป็นไข่ปลาปลอม จนเป็นข่าวจึงอยากขอความเห็นใจว่า ไม่มีใครไปนั่งผลิตไข่ปลอม เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าต้นทุนคงจะสูง แต่ในโลกโซเชียลพบว่ามีคนให้กำลังใจตนมากจึงอยากขอขอบคุณ 

ด้านป้าเล็กปลาสด หรือนาง ศิริวรรณ จีนะดษิฐ์ อายุ 58 ปี ประกอบอาชีพขายไข่ปลามา 33 ปี บอกว่า ตอนนี้แม่ค้าในตลาดได้รับความเดือดร้อนจากข่าวดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะแม่บ้านคนดังกล่าวปรุงไข่ปลาไม่เป็นน่าจะมาปรึกษากับแม่ค้าเสียก่อน ก่อนที่จะดำเนินการแจ้งให้สาธารณสุขเข้าตรวจสอบทั้งที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเสียหายกับแม่ค้า โดยลงทุนซื้อของมาหกถึงเจ็ดหมื่น แต่ถูกทางตลาดสั่งห้ามขายมาสามวันแล้ว ทั้งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ และหากผลพิสูจน์ออกมาแล้วใครจะรับผิดชอบ ซึ่งตอนนี้ทางตลาดยอมให้เปิดขายตามปกติแล้วแต่ลูกค้าก็ไม่กล้าซื้อสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก