เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผบก.ภ.จว.สงขลา นำวัสดุก่อสร้างห้องน้ำช่วยเหลือครอบครัว "สาววัย 28ปี" ถูกเพื่อนบ้านบูลลี่ หลังโพสต์ขอโถส้วมผ่านโซเชียล 


18 ส.ค. 2563, 08:42



ผบก.ภ.จว.สงขลา นำวัสดุก่อสร้างห้องน้ำช่วยเหลือครอบครัว "สาววัย 28ปี" ถูกเพื่อนบ้านบูลลี่ หลังโพสต์ขอโถส้วมผ่านโซเชียล 




จากกรณีนางอรทัย ศรีวิบูลย์ อายุ 28 ปี และครอบครัว ใช้โซเชียลเฟสบุ๊คส่วนตัวขอรับบริจาคโถส้วมหรือสุขภัณฑ์ จะเก่าหรือไม่ก็ได้ราคา 800 เพื่อสร้างห้องน้ำบนที่ดินของญาติที่ไปขออาศัย หลังจากบ้านและที่ดินถูกนายทุนนอกระบบยึด เพราะนำบ้านและที่ไปขายฝาก เพื่อนำเงินไปรักษาบิดาที่เสียชีวิตจากโรคประจำตัว มะเร็ง เบาหวาน ความดัน ไต  โดยระบุว่า "สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกๆ คนวันนี้หนูอยากจะมาขอรับโถส้วมค่ะ ครอบครัวหนูมีกัน 11 ชีวิต มีอาชีพค้าขายเก็บผักจ้างหลังจากที่เจอมรสุมเข้ามาหนักเหลือเกิน บ้านโดนยึดเพราะแม่ได้ไปทำขายฝากไว้เพื่อนำเงินมารักษาพ่อจนวินาทีสุดท้าย พ่อก็ได้เสียไปหลังจากที่บ้านโดนยึดก็ได้มาอาศัยที่ดินของน้าทำที่พักอยู่กัน อยากมีห้องนํ้าแต่หนูตอนนี้ก็ไม่มีรายได้อะไร มีน้องสาวก็ยังเรียนมีเด็กเล็กและหลานพิการ บ้านพักตอนนี้ก็เสรจแล้วอยากจะมาขอรับโถ้ส้วมค่ะ จะเป็นอันเก่าก็ได้หนูก็รับอยากมีห้องนํ้าค่ะ พี่ๆ ตอนนี้เวลาจะเข้าห้องนํ้าก็ขอน้าเขาเข้าน้า เขาไม่ค่อยว่าอะไรแต่แฟนของน้าเวลาจะเข้าแต่ละครั้งเขาไม่ค่อยจะพอใจเลยอยากจะมาขอรับโถสัก 1 อัน เพื่อมาทำห้องนํ้า"

 

 

ล่าสุด พลตำรวจตรีทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัด นำวัสดุก่อสร้าง และของใช้ที่จำเป็น ข้าวสารอาหารแห้ง อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโควิท 19 ไปมอบให้ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ และ ให้กำลังใจ ครอบครับที่ได้รับความเดือดร้อน จากการแพร่ระบาดโควิด 19 เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามโครงการแบ่งปันน้ำใจตำรวจไทยเคียงข้างประชาชนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา  และ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ณ บ้านเลขที่ 7/4 หมู่ที่ 14 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ผู้การฯสงขลา สนองนโยบาย ผบ.ตร. ช่วยเกลือประชาชนอย่างเต็มที่ หลังสาวบางกล่ำวัย 28 ปี โพสต์ข้อความขอ"โถส้วม" เมื่อที่ 17 สิงหาคม 2563 เวลา 14.00 น. 

 

 



ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บ้านเลขที่ 7/4 หมู่ที่ 14 หลังวัดคงคงเลียบ ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเพิงพักมุงด้วยสักกะสี และไม้อัดเก่า ภายในบ้านไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแต่อย่างใด นอกจากพัดลม 1 ตัว และเบาะรองนอนสำหรับเด็ก ๆ เท่านั้น โดยอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 11 ชีวิต ทราบชื่อ นางสวง ศรีวิบูลย์ อายุ 53 ปี ,นางสาวอรทัย ศรีวิบูลย์ อายุ 28 ปี , นายกฤษฎา สุภาพมณี อายุ 25 ปี ,ด.ญ.อังคณา ศรีวิบูลย์ อายุ 15 ปี ,ด.ญ.นภาวรรณ ศรีวิบูญย์ อายุ 13 ปี , น.ส.กิตติยา บุตรเสงี่ยม อายุ 21 ปี ,ด.ช.ฤทธิเดช สูตแกว อายุ 8 ปี , ด.ช.กฤษณะ สุภาพมณี อายุ 4 ปี , ด.ช.จักรกฤษณ์ สุภาพมณี อายุ 3 ปี , ด.ช.นัฐกิตตรา สุภาพมณี อายุ 8 เดือน ,ด.ญ. อริสา ศรีวิบูลย์ อายุ 6 ปี หรือ น้องเอมมี่ ซึ่งได้พิการเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่มาตั้งแต่เกิด

 

 

นางสาวอรทัย ศรีวิบูลย์ เล่าว่า ตนเองได้มาอาศัยสร้างเพิงพักอยู่ตรงนี้เป็นเวลากว่า 7-8 เดือน หลังจากโดนไล่ที่จากบ้านหลังเก่า ที่ได้ไปขายฝากไว้เพื่อนำเงินมารักษาพ่อที่เป็นมะเร็ง รักษาเป็นเวลากว่า 6 ปี จนพ่อเสียชีวิต ทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ตนเองและแม่ไม่มีเงินไปไถ่ถอนจึงถูกยึดและไล่ออกมาสร้างเพิงอาศัย ส่วนสาเหตุที่ได้โพสต์ขอโถส้วมเนื่องจากต้องการห้องน้ำเป็นของตัวเอง เพราะไปขอเข้าบ้านคนอื่นและมีเด็กเล็กๆ ทำให้ห้องน้ำสกปรก ทำให้เจ้าบ้านไม่พอใจ ซึ่งตนเองเข้าใจในจุดนี้ แต่เมื่อโพสต๋ขอความช่วยเหลือออกไปก็มีคนมากล่าวหาว่า "ตนเป็นขอทาน" ทำให้ตนรู้สึกท้อกับความเป็นอยู่ของชีวิต ทั้งนี้ที่อาศัยในปัจจุบันก็โดนตัดไฟ ต้องอาศัยไฟฟ้าจากบ้านข้างๆ เพราะไม่มีเงินไปจ่าย 

 

 


ล่าสุดหลังผู้สื่อข่าวนำเสนอเรื่องราวออกไป ทาง พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.จว.สงขลา และ พ.ต.อ.ยศพล พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.บางกล่ำ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือ 11 ชีวิต พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้เห็นข่าวจากทางช่องทีวีเช้านี้ จึงได้สั่งการให้ทางผู้กำกับ สภ.บางกล่ำ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ 11 ชีวิต โดยขออาสาซื้อวัสดุในการก่อสร้างห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ต่างๆ เอง โดยเฉพาะโถส้วมซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนจากความต้องการที่ต้องการโถส้วมแบบนั่งยองในการปลดทุกข์ ตนจึงเปลี่ยนมาเป็นโถส้วมแบบนั่งราบเพื่อป้องกันหน้ามืดจากการใช้โถส้วมแบบนั่งยอง

ส่วนโครงสร้างของห้องน้ำได้ให้ทางช่างนำรถแบคโฮมาทำการเกลี่ยดินและขุดดินเพื่อวางท่อซีเมนต์เป็นบ่อพักจำนวน 2 บ่อ พร้อมกับเทพื้นปูน ก่อนให้ทางช่างยกห้องน้ำแบบสำเร็จรูปยกทั้งหลังมาตั้งวางอีกที ซึ่งห้องน้ำที่สร้างให้สามารถใช้เป็นที่อาบน้ำในตัวไปด้วย

ในการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นนโยบายของท่านผบ.ตร. ที่ได้มอบหมายให้ทางผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฎิบัติตามนโยบายเพื่อดูแลและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนทุกคนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่นิ่งดูดายและทอดทิ้งพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.