วันนี้ (18 ส.ค. 63) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แถลงภายหลังประชุม คณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าตนไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไรกับใครทั้งสิ้น เป็นเรื่องของการหารือร่วมกันของแต่ละพรรค และเมื่อทุกอย่างได้ข้อสรุปแล้ว ก็จะเป็นไปตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ

ส่วนเรื่องแสดงออกทางการเมืองของเยาวชนในสถานศึกษานั้น ตนเองก็เห็นถึงความบริสุทธ์ใจของเด็กๆในการแสดงออก แต่ก็กังวลถึงประเด็นการไม่ยอมรับกัน หากไม่ออกมาแสดงออกทางการเมือง จึงอยากให้ทุกคนหารือกันด้วยความเป็นเหตุเป็นผล ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ก็กำลังดำเนินการอยู่ โดยพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งจะทำงานคล้ายคลึงกับครม.เศรษฐกิจเดิม แต่จะทำงานกว้างขึ้น ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุดกับเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง และการจ้างงาน ในภาคประชาชน โดยจะมีกระทรวงแรงงานเป็นแม่งานในการจัดมหกรรมการจ้างงาน จำนวนหลายแสนตำแหน่ง  ซึ่งจะมีทั้งจากส่วนราชการ  ภาคเอกชน และต่างชาติ

ในเรื่องของโควิด-19 นั้น เนื่องจากปัจจุบัน ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ ซึ่งหลายประเทศใช้วิธีการรวดเร็วเกินไปในเรื่องของเศรษฐกิจโดยการเปิดประเทศ โดยประเทศไทยจะเปิดเฉพาะบางกิจกรรมที่จะเกิดผลดีกับเศรษฐกิจในระดับฐานราก เช่น การท่องเที่ยงในบางจุด และการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชน โดยจะศึกษาว่าจะเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ ส่วนในเรื่องของการศึกษา ต้องปฏิรูปให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของ เด็ก ครู และสถานศึกษา ให้มีมาตรฐาน และการประเมินผลต่างๆ ต้องทันสมัย ทันโลกยุคปัจจุบัน

 

ส่วนในเรื่องของสื่อปลอดภัยสร้างสรรค์ รัฐบาลก็สนับสนุนในส่วนนี้โดยการสร้างกลไก และจัดทำยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างสื่อกับภาครัฐ ส่วนในเรื่องของการประกันราคาสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร ครม.ได้มีมติเห็นชอบในหลายรายการด้วยกัน โดยจะคำนึงถึงงบประมาณที่มีอยู่ โดยรัฐบาลจะดูแลให้อย่างทั่วถึง