สาวเผยอุทาหรณ์ทรมาน รู้ตัวป่วยเบาหวานในวันน้ำตาลพุ่งทะลุ 500+ จนหมอต้องเอ่ยปากบอกครอบครัวว่า "ไม่รอดนะ"
19 ส.ค. 2563, 13:53
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอุทาหรณ์ ที่ต้องนำมาแชร์เพื่อเตือนภัยผู้ที่มีนิสัยรักการกิน ชื่นชอบในการกินของหวานเป็นชีวิตจิตใจ ต่อไปต้องหันมาเอาใจใส่ เช็คสุขภาพตัวเองมากขึ้น ไม่เช่นนั้นอาจต้องประสบกับความทุกข์ทรมาน จากโรคภัยที่มาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัว อย่างเธอคนนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pornkanok Komvichian ได้ออกเผยประสบการณ์เพิ่งรู้ตัวป่วยเป็นเบาหวาน ในวันที่น้ำตาลขึ้นสูงทะลุ 500+ จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
โดยเธอได้เล่าถึงนาทีชีวิตในวันนั้น ระบุว่า คิดอยู่นานมาก ว่าจะโพสต์ดีไหม แต่มันสามารถใช้เตือนใครหลาย ๆ คนได้ เป็นประสบการณ์ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวแต่ถูกมองข้าม กินไปเรื่อย อยากกินอะไรก็กิน นาทีชีวิตที่ไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ นาทีชีวิตที่หมอเดินมาบอกครอบครัวว่า "ไม่รอดนะ น้องน่าจะไม่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวาน"
เบาหวานน้ำตาลสะสม เบาหวานน้ำตาลขึ้นสูงทะลุ 500+ (วัดครั้งแรก530) ซึ่งค่าน้ำตาลคนปกติจะอยู่ 70 - 120 ส่งผลให้เลือดเป็นกรด ปอดทำงานหนัก ค่ากรดด่างในเลือดเหลือเพียงเลขตัวเดียว (วัดครั้งแรก2) จากปกติหมอบอกว่าจะอยู่ที่ 20+ ตอนนั้นนอนหอบ เหงื่อทะลักท่วมตัวอยู่ที่บ้าน ถ้าส่งโรงพยาบาลไม่ทัน คงได้นอนอืดอยู่บนเตียงในห้องนอนแน่ ๆ ต้องขอบคุณคนพาส่งโรงพยาบาล
มาถึงโรงพยาบาล ต้องสอดท่อช่วยหายใจ 4 ครั้ง แต่ละครั้งก็สุดแสนจะทรมาน จนแพทย์-พยาบาลต้องจับมัดมือมัดเท้าไว้กับเตียง ฉีดยานอนหลับทุกชั่วโมง เพื่อพักปอด เจาะวัดน้ำตาลทุกชั่วโมงจนนิ้วพรุน เจาะเลือดไปตรวจจนระบมไปทั้งตัว เจาะให้น้ำเกลือจนไม่มีที่จะเจาะ ต้องย้ายมาเจาะที่เส้นเลือดใหญ่ตรงคอ เจาะเส้นเลือดทุกเส้นในร่างที่สามารถเจาะได้ ห้อยถุงน้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อ อะไรก็ไม่รู้ นับได้ 6 ถุง สายระโยงระยางเต็มเตียง
เริ่มแรกเดิมทีไม่มีอาการป่วยก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียนออกเป็นน้ำสีน้ำตาลถึงดำ (สีเหมือนน้ำเป๊ปซี่ หายใจหอบเร็ว เหมือนคนกำลังวิ่งอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างเริ่มทรุดลง ภาวะแทรกเริ่มเยอะขึ้น เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม จนถึงวันนี้ วันที่ 18 สิงหาคม ก็ยังพักฟื้นอยู่
เตือนเลยนะ กินหวานจัด! ดื่มน้ำอัดลม กินชานมไข่มุก กินกาแฟครีมน้ำตาลเยอะ ๆ ต้องระวังไว้!!
อาการตอนนี้ ถอดท่อแล้ว หายใจเองได้ ต้องตรวจน้ำตาลทุกอาหาร 3 เวลา และให้ยาตลอด เพราะน้ำตาลยัง 300+ อยู่ การให้ยาคือฉีดใส่พุงตัวเองเท่านั้น! และหากออกจากโรงพยาบาลไป ก็ต้องฉีดยาเอง แต่เนื่องจากตอนนี้ค่าน้ำตาลยังสูงมาก ๆ หมอเลยยังต้องให้พักฟื้นอยู่ ขอฝากไว้ว่า จงอย่าชะล่าใจกับการใช้ชีวิต