คืบหน้า "ลูกช้างป่าพลัดหลง" ล่าสุดแม่ช้างมารับแล้ว แต่ดื้อไม่ยอมไป
20 ส.ค. 2563, 10:57
เป็นข่าวให้คนรักสัตว์ได้รอลุ้นกันก่อนหน้านี้ สำหรับการช่วยเหลือ ลูกช้างป่าห้วยขาแข้ง ที่พลัดหลงแม่ให้กลับเข้าโขลงอย่างปลอดภัย ซึ่งจนท.พยายามหาที่พักให้ในจุดที่แม่ช้างสามารถมารับกลับไปได้ และเฝ้าติดตามระวังอันตรายอยู่ตลอดเวลา
ล่าสุด (19 ส.ค.63) นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยว่าหลังจากเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ได้มีช้างโคลงแม่ส่งช้างตัวผู้เป็นผู้แทนมารับลูกช้างป่าห้วยขาแข้งพลัดหลงคืนป่า โดยเดินเข้ามาหาลูกช้าง แล้วเอางวงมาสัมผัสกับตัวลูกช้างพลัดหลง แต่ลูกช้างไม่ยอมเดินตามกลับเข้าป่า
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 18 สิงหาคม 2563 เริ่มมีเสียงของโขลงช้างดังมารอบป่า มาทางทิศตะวันตก และตะวันตกเฉียงใต้ ของคอกเตรียมปล่อยบริเวณหอต้นผึ้งหลังได้ยินเสียงร้อง ลูกช้างพลัดหลงมีพฤติกรรมหางชี้ ชูงวง วิ่งวนรอบคอก จากนั้นมีฝูงช้างป่า จำนวน 14 ตัว มีลูกช้างอายุใกล้เคียงลูกช้างพลัดหลง จำนวน 2 ตัว เข้ามาใช้พื้นที่บริเวณลานหญ้าบริเวณหอต้นผึ้ง ทางด้านฝั่งตะวันตก ส่วนลูกช้างพลัดหลงห้วยขาแข้งแสดงพฤติกรรมเดินวนซ้ำไปซ้ำมาบริเวณคอกโขลงช้าง อยู่ห่างจากคอก 80 เมตร
จนกระทั่งเวลา 03.40 น. ช้างพี่เลี้ยงจำนวน 1 ตัว และแม่ช้างจำนวน 3 ตัว เข้าใกล้บริเวณคอกอีกครั้ง และเข้าใกล้ตัวลูกช้างพลัดหลง มีการเอาตัวถูไม้ไผ่ข้างคอกเพื่อทำความคุ้นเคยสนิทกับลูกช้างพลัดหลง และต้อนลูกช้างให้เข้าบริเวณมุมคอก มีช้างพี่เลี้ยงตัวหนึ่ง ได้เอางวงตวัดที่ขาของลูกช้างพลัดหลง และพยายามจะดึงไว้ เพื่อชวนให้กลับเข้าฝูง แต่ลูกช้างพลัดหลง เดินหนี มีท่าทีปฏิเสธ หลบอยู่หลังต้นไม้ ก่อนที่โคลงช้างป่าได้เดินเลาะชายน้ำ เลียบป่าทางทิศตะวันตกของคอกเพื่อกลับเข้าป่า
ทั้งนี้ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ในการประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference โดยได้ให้หาวิธีปล่อยลูกช้างพลัดหลงคืนป่าให้สำเร็จ อย่างปลอดภัย เป็นไปตามหลักวิชาการ พร้อมทั้งให้ทบทวนปรับปรุงในข้อปฏิบัติที่เป็นสาเหตุของความไม่สำเร็จ และให้ดูแลสุขภาพของลูกช้างให้แข็งแรงสมบูรณ์อีกด้วย
ที่มา ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช