"นายกฯ" เตรียมประชุมผู้นำแม่โขง-ล้านช้างครั้งที่ 3 ผ่านคอนเฟอเรนซ์ 24 ส.ค.นี้
21 ส.ค. 2563, 10:23
เมื่อเวลา 08.40 น.วันที่ 21 สิงหาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 24 ส.ค. 63 เวลา 08.30 - 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ครั้งที่ 3 ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยมีผู้นำจาก 6 ประเทศ เข้าร่วมในครั้งนี้ คือ จีน เวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และไทย
และเนื่องจากช่วงนี้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องมีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งกรอบความร่วมมือส่วนใหญ่ เป็นความร่วมที่เกี่ยวกับลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นการต่อยอดกาประชุมอาเซียนต่างๆ ที่เรามีอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้จะเป็นการเพิ่มในส่วนของประเทศจีนที่จะมาดูแลในส่วนลุ่มน้ำโขงเพิ่มเติม
โดยการประชุมครั้งนี้จะเน้นความร่วมมือในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายส่วน ไม่ใช่ทวิภาคีในแต่ละส่วน แต่เป็นลักษณะของกลุ่มทั้งหมดที่จะร่วมมือกันสร้างความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับความร่วมมือต่างๆหรือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกี่ยวกับบทบาทอาเซียน นอกจากนี้จะมีการพูดเกี่ยวกับโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ซึ่งไทยเองได้เสนอไปหลายโครงการ และหลายโครงการได้รับการอนุมัติแล้ว โดยแต่ละโครงการไม่ใช่โครงการใหญ่ แต่จะเป็นโครงการเล็กๆที่มีวงเงินไม่เกิน 62 ล้านบาท ผ่าน 10 โครงการ
นายอนุชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะพูดถึงการยกระดับสิ่งต่างๆที่เคยพูด ทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจและการพัฒนาอื่นๆ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และจะมีการเพิ่มเกี่ยวกับเส้นทางเศรษฐกิจของจีน ที่ทำอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ลงมาทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ครั้งนี้จะเพิ่มความสำคัญในการพูดคุยเรื่องนี้ด้วย โดยจะเพิ่มทางบก และทางทะเลในการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ เพื่อให้เรามีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ รวมถึงยังมีเรื่องการแลกเปลี่ยนสังคมและวัฒนธรรมในส่วนของประชาชนต่อประชาชน ทั้งนี้ นายกฯ และประเทศไทยจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยกันว่าจะมีการจัดการประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องน้ำ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกบเรื่องน้ำเข้าถึงกันได้อย่างถูกต้อง
นายอนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับการให้ความร่วมมือทางด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะในเรื่องวัคซีน ที่ประเทศจีนและไทยจะร่วมกันพัฒนาในอนาคต ซึ่งไม่ใช่เฉพาะโควิดอย่างเดียว แต่พูดถึงวัคซีนทั่วไปด้วย
"สำหรับวัคซีนที่จะนำมาใช้ป้องกันโควิด-19 เราจะพยายามผลักดันให้เป็นส่วนสำคัญของสาธารณสุขของทุกประเทศ ไม่ใช่สินค้าที่ทำกำไร ดังนั้นราคาของวัคซีนไม่ว่าประเทศไหนก็แล้วแต่ที่ผลิตได้ก่อน จะพยายามผลักดันให้เป็นในส่วนสาธารณะประโยชน์ เพราะเราทราบกันดีว่าโควิดกระจายทั่วโลก จึงไม่ใช่ประเทศใดประเทศหนึ่งมาคิดในเรื่องการทำธุรกิจเกี่ยวกับวัคซีน และในส่วนอื่นๆที่ประชุมให้ความสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือในภาพรวมทั้งหมดของกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง-ล้านช้าง"
นายอนุชา กล่าวว่า จากนั้นช่วงเวลา 12.00 น.นายกฯ จะเดินทางไปตรวจราชการที่ จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ระหว่างวันที่ 24 - 25 ส.ค.นี้