วันนี้( 23 ส.ค.63) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานถึงความคืบหน้ากรณี ที่นางสาว อัมพร (นามสมมุติ) ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.63 ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า นายสา (นามสมมุติ) ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา และผู้ใหญ่บ้าน กระทำอนาจารกับร่างกาย ด้วยการกัดดูดจนมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย ทั้งบริเวณหน้าอก แขน ไหล่ แผ่นหลัง และแก้ม หลังจากไปร่วมนั่งดื่มเบียร์ด้วยกัน ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตรงข้ามบ้านของผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง ม.13 ต.แคน อ.สนม ก่อนจะชวนกันไปดื่มต่ออีกหมู่บ้านหนึ่งและกลับมาดื่มที่บ้านญาติ
ในช่วงค่ำผู้เสียหายจึงนอนหลับด้วยอาการเมา และมารู้สึกตัวอีกทีในช่วงตี 2 เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่า เสื้อผ้าก็ถูกถอดออกไปจนหมด เหลือเพียงกางเกงใน ตัวเดียว และยังพบนายสา นอนเปลือยกายอยู่ข้างๆโดยไม่สวมใส่กางเกงใน ผู้เสียหายจึงรีบใส่เสื้อผ้า แต่นายสา ก็ยังพยายามลวนลามและอนาจารอผู้เสียหายอยู่ จนผู้เสียหายต้องค่อยๆพูดดีๆเพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านหยุดพฤติกรรมดังกล่าว และเกรงว่าจะถูกทำร้าย โดยผู้เสียหายยืนยันว่า ยังไม่ได้มีสัมพันทางเพศแต่อย่างใด ก่อนที่จะเช้า สาวผู้เสียหายจึงไหว้วานให้ผู้ใหญ่บ้านขับรถไปส่งที่บ้าน และพบว่าร่างกายมีรอยเขียวช้ำไปทั่ว
จากนั้น ในช่วงเช้าของวันที่ 14 ส.ค.63 ผู้เสียหายได้รับข้อความส่งมาทางแชท ระบุว่า “อยู่ไส กูหมา แจ้งความเฮานะ สิเอาให้ตาย 15 ปีบ่หลายเด้อ” ผู้เสียหายจึงรู้สึกกลัวว่าจะถุกทำร้าย จึงปรึกษาพ่อ และพาไปแจ้งความไว้ ที่สถานีตำรวจภูธรสนม ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้และให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งได้แจ้งความตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.63 ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ส่วนผู้ใหญ่บ้านก็ยังวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน จึงตัดสินใจร้องเรียนสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรม ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วเมื่อวานนี้นั้น
ล่าสุดเช้าวันนี้ (23 ส.ค.63) เวลา 09.30 น.พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม เจ้าของคดี ได้เรียกผู้เสียหายเข้าไปสอบสวนและนำหลักฐานมาให้พนักงานสอบสวน ในที่เวลา 11.40 น. นางสาววันเพ็ญ หาญเสมอ นาย อ.สนม ได้เชิญผู้เสียหายเข้าพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และจะเรียกตัวผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหามาสอบสวนอีกครั้ง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะลงโทษทางวินัยต่อไป
ขณะที่ในช่วงเวลา 12.00 น.ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ได้แสดงตัวเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่อีกฝ่ายแจ้งความไว้ ด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด ซึ่งตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบเสียก่อน โดยในเบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหา ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอสู้คดีในชั้นศาลต่อไป ก่อนจะออกจากห้องสอบสวนเวลาประมาณ 13.00 น.และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆว่า มีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวเกินความจริง โจมตีตนเองฝ่ายเดียว ตนขอสู้คดี เอาความถูกต้องไปวัดกันที่ศาลต่อไป