พบเต่ายักษ์ ยุคดึกดำบรรพ์ กระดองหลังมีสันหนาเป็นปุ่ม คล้ายหลังของจระเข้
29 ส.ค. 2563, 12:02
เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่านักวิจัยในฟลอริดา สหรัฐฯ จับเต่าอัลลิเกเตอร์ยักษ์ น้ำหนักตัวเกือบ 50 กิโลกรัม ในพื้นที่เขตเกนส์วิลล์ จำนวน 2 ตัว เป็นตัวผู้และตัวเมีย ตัวผู้หนัก 100 ปอนด์ (ประมาณ 45 กิโลกรัม) ส่วนตัวเมียหนัก 46 ปอนด์ (ประมาณ 20 กิโลกรัม)
ทางเจ้าหน้าที่เผยว่า แม่น้ำ The New River เป็นธารน้ำที่มีผลผลิตทางชีวภาพต่ำ ดังนั้นการพบเต่าขนาดใหญ่ในลำธารขนาดเล็กเช่นนี้ จึงถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เชื่อว่าพวกมันน่าจะถูกคุกคาม โดยคาดว่าเต่าทั้งคู่มีอายุอยู่ช่วงระหว่าง 40-80 ปี ภายหลังจากถ่ายภาพและเก็บข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยพวกมันกลับสู่ธรรมชาติไป National Geographic ระบุว่า เต่าอัลลิเกเตอร์ สามารถมีชีวิตอยู่ได้ระหว่าง 50-100 ปี ตัวผู้สามารถมีน้ำหนักได้ถึง 175 ปอนด์โดยเฉลี่ย ขณะที่บางตัวที่พบมีน้ำหนักสูงสุดถึง 220 ปอนด์ ปกติแล้วไม่มีนักล่าตามธรรมชาติ เว้นเสียแต่มนุษย์ ซึ่งส่งผลให้จำนวนของพวกมันลดน้อยลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ลักษณะเฉพาะของเต่าอัลลิเกเตอร์คือ ส่วนหัวและขาใหญ่ จนไม่สามารถหดเข้าในกระดองได้ กระดองหลังมีสันหนาเป็นปุ่ม คล้ายหลังของจระเข้ จึงเป็นที่มาของชื่อ อัลลิเกเตอร์ มันมีดวงตาที่ดุดันน่ากลัว มีจงอยปากแหลม และหางที่หนาใหญ่
สำหรับ เต่าอัลลิเกเตอร์ หรือเต่าอัลลิเกเตอร์ สแนปปิ้ง (Alligator snapping turtle) เป็นเต่านํ้าจืดที่ใหญ่ที่สุด อยู่ในวงศ์เต่าสแนปปิ้ง (Chelydridae) ซึ่งเป็นเต่าเพียงชนิดเดียวที่เหลืออยู่ในสกุล Macrochelys ขณะที่ชนิดอื่นได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้วตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ มันจึงถือได้ว่าเป็น ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตชนิดหนึ่ง
ภาพจาก FWC Fish and Wildlife Research Institute