คืบหน้ากรณีผู้ปกครอง เด็กนักเรียนหญิงของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครพนม เผยแพร่ภาพและคลิปทางสื่อโซเซียล ขณะเพื่อนนักเรียนหญิงแกล้งแต่งหน้าให้คล้ายศพ โดยนักเรียนคนดังกล่าวนอนสลบอยู่ในห้องเรียน และถ่ายคลิปล้อเลียนด้วยความคึกคะนอง กระทั่งเด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าว ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการเป็นลมหมดสติ อีกทั้งยังเกิดอุบัติเหตุตกจากโต๊ะหัวกระแทกพื้น  ทำให้มีผู้ปกครองของเด็กโพสต์ข้อความ เตือนเป็นอุทาหรณ์ และฝากพ่อแม่ผู้ปกครองให้คำแนะนำตักเตือนรวมถึง ให้คุณครูดูแลใกล้ชิด

 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล ทราบชื่อนักเรียนหญิงดังกล่าวที่ถูก เพื่อนแกล้งคือ  เด็กหญิง สิริยากร นาดี หรือน้องแก้ม อายุ 12ปี  บ้านเลขที่ 38 หมู่ 8 บ้านพิมานท่า ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม  เป็นนักเรียนโรงเรียนนาแกพิทยาคม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2   โดยน้องแก้มอาศัยอยู่กับคุณตาคุณยายคือ นายประเสริม นาดี อายุ 55 ปี  และ  นางลำเพียง นาดี อายุ 53 ปี  เพราะพ่อแม่ของเด็กหญิงไปทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งอาการของน้องแก้มล่าสุดได้ดีขึ้น ออกจากโรงพยาบาลมาฟักฟื้นที่บ้าน  แต่ยังมีอาการอ่อนเพลีย  และยังต้องรอการนัดตรวจเช็คร่างกายจากแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

โดยหลังเกิดเหตุและตกเป็นข่าวโด่งดัง ทางผู้บริหารโรงเรียนรวมถึงครูอาจารย์ ยังไม่ได้มีการออกมาชี้แจง หรือให้ข้อมูลผ่านสื่อ มีเพียงไปติดตามสอบถามดูแล อาการเจ็บป่วยของน้องแก้ม และพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ปกครองในเบื้องต้น 

 

 

 

 

นายประเสริม นาดี และ  นางลำเพียง นาดี ตายายเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563  ขณะน้องแก้มทำกิจกรรมที่โรงเรียนกับเพื่อน เกี่ยวกับการประดิษฐ์โครงงานวิทยาศาสตร์ในห้องเรียน ปรากฏว่ามีเพื่อนเดินทางข้างหลังฉีดน้ำหอม ทำให้น้องแก้มเป็นลมหมดสติ  คาดว่าเป็นสาเหตุมาจากแพ้น้ำหอม  จากนั้นเพื่อนในชั้นเรียนเกือบ 10 คน ต่างพากันคึกคะนองด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ได้พากันนำน้องแก้ม นอนบนโต๊ะยาว และแต่งหน้าล้อเลียนว่าเป็นการแต่งหน้าศพ พร้อมมีการถ่ายคลิป และภาพนิ่งไว้ ขณะนั้นน้องแก้มพลิกตัวตกจากโต๊ะสูงหัวฟาดพื้น กระทั่งมีเพื่อนรุ่นพี่ และครูมาเห็น จึงช่วยกันประสานรถพยาบาล 1669 โรงพยาบาลอำเภอนาแก ส่งไปตรวจรักษา  โชคดีไม่เป็นอันตรายมาก   แพทย์ระบุว่าสาเหตุน่าจะมาจากแพ้น้ำหอม ทำให้หมดสติ  ก่อนจะให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน และยังรอหมดนัดตรวจละเอียดอีกครั้ง  ภายหลังมีการนำภาพมาเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กในกลุ่ม ก่อนจะเผยแพร่ในกลุ่มสาธารณะทำให้ผู้ปกครองของน้องแก้มเห็นแล้วรับไม่ได้ในการกระทำดังกล่าว