ผู้ใหญ่บ้านถูกหวย 5 งวดติด หลังขอเลขเด็ดต้นตะเคียนทองคู่
30 ส.ค. 2563, 13:38
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2563 ที่อำเภอกำแพงแสน วัดลาดปลาเค้า บ้านไผ่คอย มีประชาชนแห่กันมาที่วัดราษฏรภิรมยํวราราม หรือวัดลาดปลาเค้า 1 ม.3 ต.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม หลังทราบ มีผู้เสียงโชคมาขอเลข ถูกรางวัลติดต่อกันจำนวนมาก บางรายถูก 5 งวดติด กว่าครึ่งล้านบาท ที่ต้นตะเคียนทองคู่ต้นใหญ่วัดรอบต้นได้ 3.50 เมตรและมีความยาว 19 เมตรนำหนักกว่า 7 ตันเป็นต้นตะเคียนทองคู่ที่มีสภาพที่สมบูรณ์มากมีอายุหลายร้อยปี ถูกนำขึ้นมาจากบ่อทรายด้วยความลึก ซึ่งมีชาวบ้านมาขอโชคลาภถูกรางวัลเลข 3 ตัวตรง และเลข 2 ตัวกันทั่วหน้ามีประชาชนแห่มาขอโชคลาภกันอย่าง คึกคัก
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ทราบว่ามีคนถูกหวยติดต่อกัน 5 งวดติด ได้พบกับ ผู้ใหญ่นพดล คำเจริญ อายุ 52 ปี 4 ม.14 ต.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้ที่ได้โชคลาภจากการขอต้นตะเคียนคู่ ที่มีชื่อว่า แม่ตะเคียนสุนีย์ (พี่) และแม่ตะเคียนสร้อยทอง (น้อง) หลังจากชาวบ้านและกรรมการวัดนำมาไว้ที่วัดลาดปลาเค้าแห่งนี้
จากนั้นผู้ใหญ่นพดล ได้เล่าต่อว่าได้ท้าวความถึงแม่ตะเคียนสร้อยทอง แม่ตะเคียนสุนีย์ ในช่วงปีใหม่ที่บ่อทราย ม.4 บ้านไผ่สงคราม ได้ดูดทราย และได้พบกับต้นตะเคียนแม่สร้อยทองซึ่งเป็นต้นตะเคียนคู่ที่มีสภาพที่สมบูรณ์มากทั้งที่อยู่ในใต้ดินมานับหลายร้อยปีก็ว่าได้ ทางบ่อทรายมีความตั้งใจที่จะนำมามอบให้ที่วัดลาดปลาเค้า ทางชาวบ้าน พร้อมทั้งคณะกรรมการวัดได้ปรึกษาและมีมติให้นำต้นตะเคียนคู่มาไว้ที่วัดลาดปลาเค้า ช่วงประมาณต้นเดือน กพ.2563 เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ประชาชนได้มาเสี่ยงขอโชคลาภและได้มีประชาชน ชาวบ้านใกล้ ไกล ทราบข่าว ต่างแห่มาขอโชคลาภซึ่งเป็นความหวังของชาวบ้านในการเสี่ยงโชคลาภกัน ตามความเชื่อ
ในส่วนผู้ใหญ่นพดล เล่าอีกว่าที่ตนเองได้โชคลาภติดต่อกันมา 5 งวดติดกว่าครึ่งล้านจากเลขท้าย 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัวตรงโดยการเขย่าเซียมซี และมาดูเลขที่ต้นตะเคียนทองคู่ ในช่วงใกล้วันหวยออกจะมีประชาชนจากสมุทรสาคร สมุทรปราการ ราชบุรี และชาวนครปฐม มาพร้อมอุปกรณ์ไฟฉาย ส่องหาเลขที่ต้นตะเคียนทองคู่ อายุนับหลายร้อยปี หลังถูกรางวัล พร้อมชาวบ้านคนอื่นๆ ได้รวบรวมเงินสร้างหลังคาคลุมแดด คลุมฝนให้ แม่ตะเคียนสุนีย์ แม่ตะเคียนสร้อยทอง ต้นตะเคียนคู่ 2 พี่น้อง และบางรายที่ถูกกันล่าสุดหลังโควิดได้นำชุดไทยสวยงามมามอบให้แม่ตะเคียนทองคู่ เต็มตู่พร้อมทั้งผ้าสี พวงมาลัย บางรายนำภาพยนต์มาฉายให้อีกด้วย ซึ่งต้นตะเคียงทองคู่นี้มีชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่า แม่สร้อยทอง ตะเคียนทองคู่ ที่นำมาตั้งคู่กับเรือไม้ตะเคียนทอวเก่าแก่ และทราบว่า เรือไม้ตะเคียนทองมีชื่อว่าแม่ตะเคียนสุนีย์ เป็นพี่ ส่วนแม่สร้อยทองนั้นเป็นน้อง จึงได้นำมาตั้งไว้คู่กัน
จากการสอบถามทราบว่าความเป็นมาของแม่สร้อยทอง ตะเคียนทองคู่ ที่มีความใหญ่และความยาวของลำต้น มีน้ำหนักกว่า 7 ตันวัดรอบต้นได้ 3 เมตร 50 เซ็นติเมตร และมีความสูงของต้น 19 เมตร ในการนำขึ้นมาต้องใช้ทุ่นขนาดใหญ่ที่สามารถดึงเรือที่จมขึ้นมาได้ และกว่าจะนำขึ้นบนบกต้องใช้รถแบ๊คโคขนาด 320 จำนวน 2 ตัวยกขึ้นมา
สืบเนื่องมาจากมีนายทุนมาซื้อที่ดินขออนุญาติตักดินจนลึกพอประมาณ จนมีน้ำซึมขึ้นมาจึงได้ไปขออนุญาติดูดทราย และดูดไปเรื่อยๆจนมีความลึกประมาณ 40 เมตรและเรือดูดทรายเกิดปัญหาดูดทรายไม่ขึ้น ทางทีมช่างได้นำกล้องส่องใต้น้ำไปส่องดูพบกิ่งไม้ หรือต้นไม้ไปติดตรงใบพัดดูดทราย จึงไม่สามารถดูดทรายขึ้นมาได้ และเป็นเวลาเย็นจึงได้ยุติการทำงานและในช่วงหลับนอนนายช่างได้ฝันว่าเห็นหญิงสาวใส่ชุดไทยสะใบสีเขียวนั่งอยู่บนต้นตะเคียน
ในวันต่อมาทีมช่างได้ดำน้ำลงไปดูและสำรวจใต้น้ำพบเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่จึงได้ขึ้นมาบนบกและได้พูดคุยกับทีมช่างสำรวจจึงได้ข้อยุติว่าเป็นต้นตะเคียนอย่างแน่นอนและมีต้นขนาดใหญ่ จากนั้นทางเจ้าของบ่อทรายได้ให้ทีมช่างดำน้ำพร้อมด้วยสลิงลงไปมัดกับลำต้นจำนวนหลายเส้นพร้อมทั้งได้นำทุ่นขนาดใหญ่ของบ่อมาดึงเพื่อที่จำดึงต้นตะเคียนให้ลอยขึ้นมาบนผิวนำ้ และใช้รถแบ๊คโคขนาด 320 แรงจำนวน 2 คันช่วยกันยกขึ้นมาผิวน้ำ และใช้เวลาเกือบ 1 วันก็สามารถนำต้อนตะเคียนทองคู่ขึ้นมาไว้บนบ่อในสภาพต้นตะเคียนที่สมบูรณ์มากอายุหลายร้อยปี
เมื่อนำขึ้นมาบนบ่อทรายและได้มี รปภ.และพนักงานของบ่อทรายได้มากราบไหว้ขอโชคลาภ และได้รับโชคล่ภกันแบบ 3 ตัวตรง 2 ตัวตรง แทบทุกวัน ทางด้านเจ้าของบ่อทรายจึงมีความคิดว่าน่าจะนำต้นตะเคียนทองคูไปไว้ที่วัด เพื่อให้ชาวบ้านที่มากราบไหวขอโชคลาภกันและอีกอย่างก็จะสะดวกใตการเดินทางของชาวบ้าน
จึงได้แจ้งไปยังวัดที่ใกล้ที่สุดในพื้นที่ก็คือวัดราษฏรภิรมยํวราราม. หรือวัดลาดปลาเค้า และกรรมการวัด ทางคณะกรรมการวัดและชาวบ้านจึงมีความคิดเห็นตรงกันว่าน่าจะนำต้นตะเคียนทองคู่มาไว้ที่วัดเพื่อให้ชาวบ้านมากราบไหว้ขอโชคล่ภและร่วมทำบุญกับทางสัดและอีกอย่างบ่อทรายก็อยู่หมู่บ้านเดียวกับวัลาดปลาเค้า ทางคณะกรรมการวัดได้ไปวัดความยาว และความใหญ่ของต้นตะเคียนทอง เพื่อที่จะจัดเตรียมเทพื้น และทำแท่นรองรับต้นตะเคียนทอง และพูดคุยกับเจ้าของบ่อพร้อมทั้งได้นัดวันดี เป็นวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 และได้นำรถหัวลาก เทรลเลอร์ พร้อมทั้งรถเครนขนาด 5 ตันมาเตรียมยกต้นตะเคียนทอง ในระหว่างที่เครนเริ่มยกได้เกิดเครนมีแรงโน้มท่วงและเครนเริ่มเอียงแทบจะพลิกควำ้เลยที่เดียว จึงได้ยุติลง และได้ประสานขอรถเครนคันใหญ่กว่าเดิมขนาด 10 ตันมายก ในระหว่างเครนขนาด 10 ตันยก และมีเครนที่มากับรถหัวลากช่วยกันยกต้นตะเคียนทอง เมื่อทำการยกเสร็จขึ้นรถเทรลเลอร์เป็นที่เรียบร้อย ได้มีชาวบ้านหลายร้อยคน รถอีกหลายสิบคัน มาร่วมขบวนแห่ตะเคียนทอง หรือที่ชาวบ้านเรียกกัน. แม่สร้อยทอง ตะเคียนทองคู่. ในระหว่างแห่ไปวัดระยะทาง 2 ก.ม. มีชาวบ้านเห็นหญิงสาวใส่ชุดไทยสะใบสีเขียวนั่งบนต้นตะเคียนทอง
เมื่อมาถึงวัดลาดปลาเค้า รถหัวลากจอดเทียบ รถเครนพร้อมยกและยกลงมาวางในสถานที่จัดเตรียมรอรับแม่สร้อยทอง ต้นตะเคียนทองคู่ มาอยู่กับเรื่อเก่าแก่โบราณไม้ตะเคียนทอง ชาวบ้านเล่าว่า เป็นพี่-น้องกัน เรือไม้ตะเคียนทองมีชื่อว่า แม่ตะเคียนทองสุนีย์ (พี่)แม่สร้อยทอง ตะเคียนทองคู่ (น้อง)ได้มาอยู่ด้วยกัน หลังจากนำมาไว้ที่วัดลาดปลาเค้าแล้วได้มีชาวบ้านบอกต่อๆกันไปจนมีประชาชนทยอยหลั่งไหลมาตลอดทั้งวันเพื่อมากราบไหว้ ขอโชคลาภ และดูต้นตะเคียนทองคู่ที่มีสภาพที่ใหญ่ และลำต้นยาว มีชาวบ้านหลั่งไหลมากราบขอโชคลาภ แม่สร้อยทอง ตะเคียนทองคู่ พร้อมทั้งนำชุดไทยสะใบมาให้ไว้ที่ต้นตะเคียนทองและโต๊ะเครื่องแป้งแต่งตัว นำ้ส้ม ผลไม้ บางรายดูเลขจากต้นตะเคียนทองเห็นเลข 75 -57 ซึ่งเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลที่มากราบไหว้ต้นตะเคียนทองที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก อายุ หลายร้อยปี พร้อมทั้งบอกบุญ ร่วมทำบุญกับวัดลาดปลาเค้ากันอีกด้วย ซึ่งทางวัดได้มีการก่อสร้างศาลาอเนกประสงค์ ใช้เพื่อปฏิบัติธรรมและประเพณีต่างๆในวันสำคัญ ประกอบกิจทางสงฆ์ ซึ่งทางวัดยังขาดทุนทรัพย์อีกจำนวนมาก และร่วมทำบุญสร้างหลังคา ให้แม่ตะเคียนทองคู่แม่สร้อยทอง และแม่ตะเคียนทองสุนีย์ สิ่งที่แม่สร้อยทองชอบจะเป็นน้ำส้ม และกราบไหว้ให้จุดธูป 7 ดอก และชุดไทยสะใบสีเขียว ชุดไทยดั่งเดิม ในส่วนเครื่องหอมก็จะเป็นพวงมาลัย ดอกมะลิ ที่ชอบมาก และขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญกับวัดลาดปลาเค้าในครั้งนี้อีกด้วย