นายกฯ ลั่นผนึกกำลังทุกภาคส่วนขับเคลื่อนไทย ยก 3 ประเด็นสำคัญก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19
31 ส.ค. 2563, 14:37
วันนี้ ( 31 ส.ค.63 ) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมผู้แทนสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยานการประกาศเจตนารมณ์ขององค์กรสมาชิกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ในโอกาสการฉลองครบรอบ 20 ปี ภายในงานสัมมนา “วิถีคิดผู้นำสู่ความยั่งยืนภายใต้ชีวิตวิถีใหม่”
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาว่า สิทธิมนุษยชนเป็นรากฐานที่เข้มแข็งของสังคมและธุรกิจ การเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นหลักการที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญและปฏิบัติ รัฐบาลจึงสนับสนุนให้ภาคเอกชนประกอบธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมุ่งหวังแต่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว พร้อมภูมิใจที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติ ว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน เมื่อปี 2562 โดยให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลัก คือ คุ้มครอง เคารพ และเยียวยา
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำความสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 สอดคล้องกับ “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ที่สร้างความเข้มแข็งจากภายในและรากฐาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคนและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกัน พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมย้ำว่าทุกภาคส่วนจะต้องรวมพลังกันเพื่อ “รวมไทยสร้างชาติ” และร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ หรือ SDGs ซึ่งจะต้องบรรลุให้ได้ภายในปี 2573
ทั้งนี้มองว่ามี 3 ประเด็นที่มีความสำคัญต่อการฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้ ประกอบด้วย การสาธารณสุขที่เข้มแข็ง การเตรียมรับมือกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจ ด้วยการจัดสรรงบประมาณวงเงินกว่า 1 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างครอบคลุม รวมทั้งการเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงจากวิกฤติแบบใหม่ หรือ New Normal