2 ประเทศ ร่วมกันปลูกต้นไม้ และถวายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน ถวาย 9 วัด จ.อุดรมีชัย เนื่องในวันเข้าพรรษา
18 ก.ค. 2562, 11:09
เมื่อวันที่ 17 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่วัดสระชุก ต.ตรอเปรียงไปร อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 4 กม. พล.ต.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ผบ.กองกำลังสุรนารี พร้อมด้วย พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา พ.อ.วีระยุทธ รักศิลป์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 พ.อ.โถมวัฒน์ สว่างวิทย์ รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ได้นำพุทธศาสนิกชนชาวไทย คณะครู นักเรียน ร.ร.บ้านแซรไปร ไปร่วมกับ พล.ท.เจีย สุเพี๊ยะ รองผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา พล.ต.โต๊ด รา หัวหน้าหน่วยประสานงานกัมพูชา-ไทย และ นายฮอร์จิน วีระยุทธ นายอำเภออัลลองเวง พุทธศาสนิกชนชาวกัมพูชา ประกอบพิธีถวายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝน ถวายแด่วัด จำนวน 9 วัด ในเขต อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ ได้ถวายเงินบำรุงวัดสระชุก จำนวน 10,000 บาท ให้กับเจ้าอาวาสของวัดสระชุก จากนั้น พล.ต.กิตติศักดิ์ และ พล.ท.เจีย สุเพี๊ยะ ได้นำทหารไทยและทหารกัมพูชา ครู นักเรียน และประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ร่วมกันปลูกต้นพะยูง และต้นยางนา ภายในบริเวณวัดสระชุก พร้อมทั้งจับมือกัน เพื่อเป็นการเสริมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับกัมพูชา เนื่องในวันเข้าพรรษาปีนี้
พล.ต.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ผบ.กองกำลังสุรนารี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 โดยหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ร่วมกับ ภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมขึ้น เพื่อเป็นการดำเนินการตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 2562 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการไปแล้ว จำนวน 5 เรื่องด้วยกัน และในครั้งนี้เป็นการดำเนินการในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้ร่วมกันปลูกต้นยางนาและต้นพะยูง ซึ่งนับวันจะหายาก ส่วนมากจะถูกตัดตามแนวชายแดน ดังนั้น วันนี้จึงได้มาปลูกที่วัดสระชุกของกัมพูชา เพื่อให้ต้นพะยูงเป็นต้นไม้แห่งสัมพันธไมตรีอันดีงามระหว่าง 2 ชาติ ให้มีความมั่นคงแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
พล.ท.เจีย สุเพี๊ยะ รองผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา กล่าวว่า ไทยและกัมพูชา ล้วนแต่นับถือศาสนาพุทธเช่นเดียวกัน ซึ่งการจัดกิจกรรมในช่วงวันเข้าพรรษาถือว่าเป็นการร่วมกันทำบุญกับพระสงฆ์และคืนความชุ่มชื้นให้กับผืนแผ่นดินของกัมพูชาในการปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะต้นพะยูง ซึ่งขณะนี้เป็นต้นไม้หายากและมีราคาแพง จะเป็นต้นไม้แห่งมิตรภาพที่ดีงามของ 2 ประเทศสืบต่อไป ซึ่งตนต้องขอขอบคุณ พระครูโกศลสิกขกิจ ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยใช้มิติทางศาสนา
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า การเข้าพรรษาเป็นพิธีกรรมทางพระสงฆ์ ทั้งไทยและกัมพูชาจะเหมือนกัน โดยการปฏิบัติกิจของพระสงฆ์ ส่วนญาติโยมก็คงจะยึดเอาในวันเข้าพรรษานี้ ปฏิบัติตัวให้ดีงาม เช่น ไม่ทำความชั่ว ให้ทำแต่ความดี ทำจิตใจตัวเองให้บริสุทธิ์ ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะทำให้ชีวิตของพุทธศาสนิกชนเจริญรุ่งเรืองในทุกด้านต่อไป