มท.ติวเข้มผู้ปฏิบัติงานด้านบริหารทรัพยากรบุคคล มุ่งสู่ "การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์"
31 ส.ค. 2563, 15:05
วันที่ 31 ส.ค. 2563 ที่โรงแรมเอสดี อเวนิว เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารทรัพยากรบุคคลของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ซึ่งจัดขึ้นโดยกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยโดยมีวัตุประสงค์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารทรัพยากรบุคคลของสำนักงานจังหวัดให้กับผู้ปฏิบัติงานด้านการบริหารงานบุคคลของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 100 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจังหวัด 76 จังหวัด จำนวน 76 คนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการบริหารงานบุคคลในสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 24 คน
นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป กล่าวว่า สำนักงานจังหวัดเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ถือเป็นหน่วยงานที่สำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เปรียบเสมือนข้อต่อสำคัญในการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล ในฐานะ HR Unit เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเกี่ยวกับการกลั่นกรองและเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลของผู้ว่าราชการจังหวัด งานฝ่ายเลขานุการ อ.ก.พ. จังหวัด งานส่งเสริมธรรมาภิบาล การป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ งานพัฒนาระบบราชการ รวมถึงงานพัฒนาบุคลากรภาครัฐในจังหวัด ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินของสำนักงานจังหวัดในฐานะ "หน่วยงานเสนาธิการ" ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นกลไกหลักในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและการพัฒนาพื้นที่ในเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งมิติทางด้านความั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคลจึงมีความจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนบทบาทโดยการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับองค์กร หรือ HR Strategic Partner สามารถสนับสนุนการขับเคลื่อนของผู้บริหารและยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ท้ายนี้ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการฯ นี้ เป็นโอกาสทำให้ผู้ปฏิบัติงานการบริหารทรัพยากรบุคคลของจังหวัดได้รับทราบนโยบายและทิศทางการบริหารทรัพยากรบุคคลที่เปลี่ยนแปลงและมีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานมากขึ้น และเป็นเวทีในการสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้วยกัน ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนงานของจังหวัดและกระทรวงมหาดไทยมีการพัฒนาและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่อย่างยั่งยืน