โรงเรียนบ้านกุยแหย่ สั่งปิดเรียน 3 วัน หลังพบนักเรียน 3 คน ใกล้ชิดต่างด้าวจากพม่า
1 ก.ย. 2563, 09:04
วันนี้ 01 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เพจเฟสบุ๊ก ‘โรงเรียนบ้านกุยแหย่’ ได้โพสต์ข้อความแจ้งให้ผู้ปกครองและนักเรียนทราบว่า โรงเรียนประกาศปิดเรียนเป็นการชั่วคราว จำนวน 3 วัน ว่า “ด้วยสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีความเสี่ยงต่อนักเรียนโรงเรียนบ้านกุยแหย่ เนื่องจากมีบุคคลที่กลับจากต่างประเทศ (พม่า) ได้เข้ามาในประเทศไทยโดยผ่านช่องทางธรรมชาติ มิได้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอย่างถูกต้อง และเข้ามาในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงเรียนและชุมชน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อจากบุคคลที่มีความเสี่ยง ทางโรงเรียนจึงแจ้งให้นักเรียนหยุดการเรียน ตั้งแต่วันที่ 1- 3 กันยายน 2563 และขอให้นักเรียนป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากความเสี่ยง งดอยู่ในที่ชุมชน หรือ งดออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น” “หมายเหตุ หากสถานการณ์ยังมีความเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 ทางโรงเรียนจะแจ้งให้ผู้ปกครองและนักเรียนทราบอีกครั้ง”
นอกจากนี้ทางโรงเรียนบ้านกุยแหย่ ยังได้แจ้งคณะครูให้ทราบว่า “ขณะนี้ได้มีผู้หลบหนีเข้าเมืองมาประเทศไทย โดยผ่านช่องทางตามธรรมชาติ และฝ่ายปกครองของชุมชนร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ได้ดำเนินการควบคุมตัว และได้ดำเนินการวัดไข้ ปรากฏว่า มีไข้สูง จึงได้ส่งไปไปควบคุมโรค ที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ โดยผู้ป่วยดังกล่าวได้ใกล้ชิดกับนักเรียน จำนวน 3 คน และได้ดำเนินการให้หยุดดูอาการ จำนวน 14 วัน
ในการนี้แจ้งครูทุกท่าน ร.ร.จะดำเนินการปิดเรียนจำนวน 3 วัน เพื่อเป็นการป้องกันสถานการณ์ดังกล่าว จนกว่าผลการตรวจจะยืนยันมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าเป็นผลดีไม่ติดเชื้อโควิด-19 ก็มาเรียนได้ตามปรกติ แต่ถ้ามีเชื้อโควิด-19 จะแจ้งกับคณะครูทราบโดยทันที เพื่อร่วมหาแนวทางป้องกัน และร่วมมือกับทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
เบื้องต้นผู้อำนวยการฯ ได้รายงานด้วยวาจากับทางผู้บังคับบัญชาเรียบร้อยแล้ว และมีดำริว่าน่าจะปิดเรียนเพื่อเป็นการป้องกันนักเรียน ความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า งานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทองผาภูมิ ได้รายงานเหตุการณ์เบื้องต้นเสนอผู้บริหาร ว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เวลา 15.15 น. งานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทองผาภูมิ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกุยแหย่ ว่าพบผู้ป่วยชายเมียนมา 2 ราย มีอาการไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส ให้ประวัติว่า เดินทางจากเมียนมา ข้ามมาทางช่องทางธรรมชาติ ผ่านแปลง 5 ตำบลห้วยเขย่ง มาพักอยู่ที่ บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 3 บ้านพุล่อ ตำบลลิ่นถิ่น ตรวจหาเชื้อมาลาเรียไม่พบเชื้อ จึงแจ้งเพื่อหารือการปฏิบัติเนื่องจากอยู่ในข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้ป่วยชายเมียนมา 2 ราย ได้แก่ นายเชิด อายุ 20 ปี และนายแดง อายุ 17 ปี เริ่มมีอาการไข้สูงวันนี้ ไม่สามารถสื่อสารได้ชัดเจนเนื่องจากพูดไทยไม่ได้ ให้ประวัติไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อมาลาเรียโดยใช้ชุดตรวจ ไม่พบเชื้อ และมีเด็กชายอายุ 1 ปี ในบ้านที่ทั้งสองคนไปพักอาศัยอยู่ มีอาการไข้สูง 39 องศาเซลเซียส ด้วย เนื่องจากมีประวัติเพิ่งเดินทางข้ามมาจากเมียนมาซึ่งอาจเป็นพื้นที่ระบายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ข้ามมาทางแปลง 5 ตำบลห้วยเขย่ง ตามช่องทางธรรมชาติ และมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของนายเจมส์ นางนอพ่อ ชาวเมียนมา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2563 อยู่บริเวณสวนยาง ของนายประจวบ ชาญชัยกาญจนา หมู่ 3 ตำบลพุล่อ ตำบลลิ่นถิ่น จึงได้ประสานงานระบาดวิทยาของโรงพยาบาลทองผาภูมิ เพื่อดำเนินการตามมาตรการ แพทย์สั่งการให้รับผู้ป่วยไว้นอนในโรงพยาบาล เพื่อตรวจวินิจฉัยและเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยส่งเข้าโรงพยาบาลโดยรถกู้ภัย เวลาประมาณ 16.20 น.
การประเมินความเสี่ยงเบื้องต้น ประเทศเพื่อบ้านมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ง่าย และมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ การติดต่อจากคนสู่คนแบบใกล้ชิด หรือสัมผัสทางน้ำมูกน้ำลาย ไอหรือจาม ละอองฝอย ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงสูงในการแพร่กระจายของโรค
มาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ทีมตระหนักรู้ (SAT) คณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับทีม CDCU อำเภอทองผาภูมิ ดำเนินการสอบสวนโรค ในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ระหว่างเวลา 15.20-16.00 น. ดำเนินงานขั้นต้น ดังนี้ 1.ประสานการตรวจวินิจฉัยกับโรงพยาบาลทองผาภูมิ และการรับส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล ให้นอนโรงพยาบาล จำนวน 3 ราย เพื่อตรวจวินิจฉัยและเพาะเชื้อฯ 2.ประสานอาสาสมัครสาธารณสุข ค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมในละแวกบ้าน โดยพบว่า ในบ้านที่ผู้ป่วยทั้ง 3 คน พักอาศัย ยังมีเด็กอีก 3 คน เรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประถมศึกษาปีที่ 4 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านกุยแหย่ จึงได้ประสานโรงเรียนให้เด็ก 3 คนหยุดเรียนและกักตัวที่บ้าน 14 วัน วัดไข้ทุกวัน และสังเกตอาการผิดปกติ จนกว่าจะวินิจฉัยโรคได้ หรือชัดเจนว่าป่วยด้วยโรคอื่น 3.ชี้แจงสถานการณ์ มาตรการ กับโรงเรียนบ้านกุยแหย่ ให้ทำ big cleaning ในวันที่ 1 กันยายน 2563 และสังเกตอาการเด็กร่วมชั้นเรียน ครู และนักเรียนทุกคน วัดไข้ทุกวัน และเน้นมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด 4.แจ้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกุยแหย่ ให้ทำ big cleaning
ข้อเสนอแนะหรือสิ่งที่ควรดำเนินการต่อไป เพื่อป้องกัน ควบคุม และลดผลกระทบ 1.เฝ้าระวังอาการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกุยแหย่ วัดไข้ สังเกตอาการ และห้ามเดินทางออกนอกพื้นที่ก่อนได้รับอนุญาต และรายงานทันทีเมื่อมีเจ้าหน้าที่อาการผิดปกติ 2.เตรียมความพร้อม วัสดุ อุปกรณ์ ที่จำเป็น รองรับการระบาดในพื้นที่ทุกแห่ง 3.เน้นย้ำทุกระดับ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีช่องทางเดินเข้าออกตามธรรมชาติได้ ให้เฝ้าระวังเข้มข้นหากพบสถานการณ์เช่นเดียวกัน ให้แจ้งทีมระบาดวิทยา 4.รายงานผู้บริหาร เพื่อประสานผู้มีส่วนเกี่ยวของ ร่วมเฝ้าระวังในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของผู้ป่วย ทางทีมแพทย์ได้เก็บตัวอย่างและจะส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันพรุ่งนี้ และจะทราบผลในวันพุธที่ 2 ก.ย.ที่จะถึงนี้
สำหรับ โรงเรียนบ้านกุยแหย่ หมู่ที่ 2 บ้านกุยแหย่ ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปิดทำการสอน 3 ระดับ คือ ระดับก่อนประถม ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 857 คน รวม 29 ห้องเรียน มี นายนิล โชคสงวนทรัพย์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน มีบุคลากรครู จำนวน 45 คน./
////////////////////////////////////////////////////////////
หมายเหตุ ภาพจากเพจเฟสบุ๊ก ‘โรงเรียนบ้านกุยแหย่’