เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"อธิบดี ทช." เผยการกู้ซากเรือราชาเฟอร์รี่ ดีเดย์เร็วๆนี้


4 ก.ย. 2563, 10:12



"อธิบดี ทช."  เผยการกู้ซากเรือราชาเฟอร์รี่ ดีเดย์เร็วๆนี้




นายโสภณ ทอง ดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล และ ชายฝั่ง เปิดเผยจากกรณีเรือราชาเฟอร์รี่ บรรทุกขยะ จำนวน 90 ตัน ถูกคลื่นซัดจนทำให้เรือราชา 4 จมลงสู่ก้นทะเล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ขณะที่แผนการกู้ซากเรือข้นจากก้นทะเล คาดว่าจะดีเดย์ใน วันที่ 5 กันยายนนี้ ส่วนปัญหาของขยะที่ติดอยู่ในซากเรือ ตรวจสอบแล้ว ว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากขยะได้ทำการซีนด้วยพลาสติก และยังอยู่ในซากเรือ ไม่สามารถลอยขึ้นมาเหนือน้ำได้ เนื่องจากซากเรือเฟอร์รี่ที่จมคว่ำทับอยู่ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ ซึ่งตนเตรียมลงพื้นที่เดินทางไปตรวจสอบดูแผนการกู้เรือเฟอร์รี่ 

 

 

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวงานว่า นายโสภณ ทอง ดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล และ ชายฝั่ง เปิดเผยว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา เรือราชาเฟอร์รี่ ราชา 4 ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเรือเฟอร์รี่ เที่ยวเหมาพิเศษ ได้รับจากบรรทุกรถบรรทุกพ่วงขนขยะ จำนวน 3 คัน บรรทุกขยะ จำนวน 90 ตัน พร้อมรถยนต์กระบะสี่ประตู 1 คัน พร้อมด้วยลูกเรือ จำนวน 12 คน ผู้โดยสารที่เป็นคนขับรถบรรทุก และรถกระบะสี่ประตู 1 คัน รวม 16 คน ออกจากท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ฝั่งอำเภอเกาะสมุย ปลายทางท่าเรือเฟอร์รี่ อำเภอดอนสัก ขณะที่เรือเฟอร์รี่ ออกจากท่าเรือได้ประมาณ 5 ไมล์ทะเล เกิดอุบัติเหตุคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าใส่ ตัวเรือ ทำให้เรือล่ม จมลงสู่ก้นทะเล เหตุเกิดบริเวณ เกาะสี่ เกาะห้า อำเภอเกาะสมุย ทำให้มีผู้รอดชีวิต 11 คน และเสียชีวิต 5 คน 



นายโสภณ ทอง ดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล และ ชายฝั่ง กล่าวอีกว่า จากวันที่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ กว่า 1 เดือนแล้ว หลังจากเกิดเหตุ ยังไม่ได้มีการกู้ซากเรือแต่อย่างใด เนื่องจากมีอุปสรรคคลื่นลมในทะเลที่มีกำลังแรง ขณะเดียทาง กรมทรัพยากรทางทะเล และ ชายฝั่ง ได้ติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง จากการได้รับรายงาน ทราบว่ารถบรรทุกขยะทั้ง 3 คัน ที่บรรทุกขยะ ก็ยังอยู่ในซากเรือเฟอร์รี่ ที่จมอยู่ก้นทะเล โดยขยะทั้งหมด ที่แพ็คซีนไว้เป็นก้อน ห่อหุ้มซีนด้วยพลาสติก และเรือเฟอร์รี่ที่จม ซึ่งอยู่ในสภาพเรือที่คว่ำคลอบรถบรรทุกและขยะเอาไว้ จึงทำให้ขยะไม่สามารถหลุดลอดออกมาได้ เพราะฉะนั้น มั่นใจได้ว่า ขยะดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศแต่อย่างใด และก็ไม่ส่งผลกระทบต่อมลพิษ ทางน้ำ 

 

 

ขณะเดียวกัน ที่หลายฝ่ายกังวนในเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงจากเรือเฟอร์รี่ และจากรถบรรทุก ว่าจะไหลออกมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคราบน้ำมันหลุดออกมาแต่อย่างใด ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ 

 


ทั้งนี้ตนขอเรียนว่า ที่ผ่านมา เรามีอุปสรรค ในเรื่องของคลื่นลม ในทะเล ที่กำลังแรง จึงไม่สามารถทำการกู้ซากเรือขึ้นมาได้ และทำให้ไม่สามารถดำเนินการกระทำได้อย่างเต็มที่ แต่หลังจากนี้ ในต้นเดือนกันยายนนี้ ได้รับรายงานว่า เรือเครนขนาดใหญ่ กำลังเดินทางมาแล้ว จำนวน 2 ลำ เป็นเรือเครนขนาด 600 ตัน และขนาด 200 ตัน อยู่ระหว่างเดินทางเข้าไปยังจุดที่เกิดเหตุแล้ว การตรวจสอบ คาดว่าในวันที่ 5-6 กันยายนนี้ เรือเครนจะดำเนินการกู้ซากเรือเฟอร์รี่ได้ ซึ่งตนเองจะเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบการวางแผนการกู้ด้วยตนเอง 

 

 

ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนอาจจะมีความห่วงใยว่า หากกู้ซากเรือขึ้นมาแล้วเกิด accidental ขึ้นมาที่จะทำให้ เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ทาง หน่วยงานภาครัฐ เช่นกรมทรัพยากรทางทะเล และ ชายฝั่ง  และกรมเจ้าท่า หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งโดยทาง นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กำกับการและดูแลอย่างใกล้ชิด และมีการวางแผนการกู้ซากเรืออย่างละเอียด โดยทางบริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ได้เตรียมอวนขนาดใหญ่ ไว้แล้ว เพื่อทำการคลุม และบล็อกพื้นที่ ในการกู้ซากเรือและรถบรรทุกรวมถึงขยะขึ้นมา จากก้นทะเล และมาตรการป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิง ที่จะไหลออกมาจากการกู้ซากเรือ ซึ่งทุกอย่างทุกขั้นตอน ได้เตรียมแผนรองรับไว้หมดแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชน มั่นใจได้ ซึ่งทางกรมทรัพยากรทางทะเล และ ชายฝั่ง  และทางท่าน รัฐมนตรี โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.