ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. เห็นชอบ 2 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้โครงการ "คนละครึ่ง" วงเงินกว่า 68,400 ล้านบาท โครงการแรกเกี่ยวกับการจ้างงาน และอีกโครงการเป็นการช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อย และลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน

คุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการก่อน ต้องเป็นคนไทยอายุ 18 ปี ขึ้นไป ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 15 ล้านคนที่จะเข้าร่วมโครงการ ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com แล้วจะได้รับเงินคนละ 3,000 บาท เข้าไปที่แอปพลิเคชัน เป๋าตัง

ส่วนเงื่อนไขการใช้งาน ต้องซื้อสินค้าผ่านแอปฯ เป๋าตัง กับร้านค้าที่ลงทะเบียน แอปฯ ถุงเงิน โดยประชาชนจะซื้อสินค้าราคาถูกลงครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่ง รัฐบาลจะสนับสนุนให้ ใช้ได้ไม่เกิน 100-250 บาท ต่อวัน ซื้อได้ทุกอย่าง ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่

โดยคาดว่า ดำเนินการได้เดือนตุลาคมนี้ เบื้องต้นประเมินว่า จะทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ 90,000 ล้านบาท และครั้งนี้ไม่ปิดกั้นร้านสะดวกซื้อก็ได้รับอานิสงส์ ซึ่งต้องติดตามว่าต้องลงทะเบียน ลักษณะคล้ายชิมช้อปใช้ คนที่ลงทะเบียนก่อนจะมีสิทธิ์ได้ก่อน

 

 

สรุปเพื่อให้เข้าใจง่าย

กลุ่มเป้าหมายคือ  ?
-ผู้ที่มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป
-สัญชาติไทย
-จำนวน 15 ล้านคน
 
ทำอย่างไรถึงขอรับสิทธิ์ดังกล่าวได้?
-รัฐบาลจะเปิดเว็บไซต์ให้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการมาลงทะเบียน ลักษณะคล้ายโครงการ "ชิมช้อปใช้"
  

เงิน 3,000 บาทเข้ามาทางไหน และใช้ทำอะไรได้บ้าง?
-รัฐบาลจะโอนเงินเข้ามาทางแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง เท่ากับว่าผู้มีสิทธิ์จะต้องโหลดแอปฯ เป๋าตังมาก่อน จากนั้นถึงจะใช้จ่ายซื้อของได้
  

เงิน 3,000 บาท ใช้ซื้อของได้ที่ไหนบ้าง?
-ร้านที่เข้าร่วมโครงการ เช่น หาบเร่ แผงลอยที่เป็นรายย่อย และร้านค้าทั่วไป รวมทั้งสิ้น 80,000 แห่ง
 

เงื่อนไขการใช้เงิน 3,000 บาท เป็นอย่างไร?-ใช้ได้ไม่เกินวันละ 100-250 บาท รัฐบาลจะช่วยจ่าย 50% หรือครึ่งหนึ่ง
-ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้าต่างๆ ได้ ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่
  

มาตรการดังกล่าวเริ่มและสิ้นสุดเมื่อไหร่?
-เริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 63