วันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานที่บ้านของ นายเดชา พูมลา อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 ม.2 บ้านผือ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kanitta Puchada โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมาว่า

“บ้านอยู่บ้านผือ ตำบลพระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ค่ะ บ้านหลังเล็กๆ พอเก็บข้าวเปลือกไว้กินไม่กี่ถุง อุปกรณ์ทำการเกษตร มีคุณตาอายุ 70 อยู่บ้าน คุณโจรงัดห้องเก็บข้าว อุปกรณ์ ติดต่อกันสามวัน คุณตาได้แต่ยืนมอง กลัว ไม่กล้าออกมาจากห้อง วันแรกเอามอเตอร์ไซค์ไป วันสองงัดเอาข้าวเปลือกสองถุง แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจย่อยพระลับ ท่านมาดูเหตุการณ์ บอกคุณตาว่าโจรจะเอาอะไรให้มันไป ให้รักษาชีวิตไว้ วันที่สามมาอีก ดีแต่เปลี่ยนกุญแจใหม่ ตำรวจท่านเมตตามาดูให้ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ บ้านเมืองอยู่ยากจริง ความปลอดภัยในชีวิตไม่มีเลย มีข้าวแค่นิดหน่อยพอได้กิน ยังเบียดเบียนกันอีก เป็นได้ไงมาบ้านเดียวสามวันติด แจ้งความแล้วแจ้งอีก จะอยู่ไงทีนี้ ขนข้าวของหนีสิคะ ชีวิตนี้จะหวังพึ่งใคร เบียดเบียนกันขนาดนี้บ้านเมืองจะพึ่งได้หรือไม่หนอ”

เมื่อผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ก็พบ นายเดชา อยู่ที่บ้านพักเพียงลำพัง เป็นบ้านปูนชั้นเดียว อยู่ท้ายหมู่บ้าน โดยนายเดชาพาเดินดูบริเวณสวนใกล้บ้าน ซึ่งเชื่อว่าเป็นเส้นทางที่คนร้ายเดินเท้าลัดเลาะตามชายป่าและคันนาเข้ามาในบ้าน ครั้งแรกเป็นช่วงกลางวัน วันที่ 11 ก.ค. ครั้งที่สอง คืนวันที่ 12 ก.ค. ครั้งที่สาม คืนวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา รวม 3 ครั้ง ได้เงินสด 700 บาท ข้าวเปลือก 1 กระสอบ ประมาณ 30 กิโลกรัม และข้าวสวยหุงแล้ว 1 หม้อ อาหารสดในตู้เย็น

คุณตาบอกว่า วันที่ 11 ก.ค.ช่วงสายๆ ตาทำกับข้าวไว้ในตู้กับข้าว และหุงข้าวไว้ 1 หม้อ เตรียมไว้ว่าเมื่อตื่นนอนจะได้กิน หลังเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็นอน และหลับกลางวันที่แคร่ไม้ไผ่ข้างบ้าน ตื่นขึ้นมาช่วงบ่าย ปรากฏว่าพบหม้อหุงข้าวตั้งไว้ พร้อมถ้วยชามที่ใส่กับข้าวแต่กินหมดแล้ว ในบ้านก็ถูกรื้อค้นสิ่งของ และคนร้ายได้เงินสดไป 700 บาทไป

จากนั้น คืนวันที่ 12 ก.ค. ช่วงตีสองกว่า รู้สึกตัวตื่นเพราะเสียงสุนัขเห่า จึงมองลอดช่องหน้าต่างไปที่บริเวณหน้าบ้าน ก็พบชายวัยรุ่นอายุประมาณ 18-20 ปี แบกกระสอบข้าวเปลือกใส่ในรถเข็นจำนวน 2 กระสอบ และเข็นออกจากบ้านไป เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่ไม่กล้าออกไป เพราะอยู่บ้านคนเดียวเกรงว่าจะถูกทำร้าย ช่วงเช้าออกมาดู ปรากฏว่าคนร้ายทิ้งกระสอบข้าวเปลือกไว้ข้างทาง 1 กระสอบ เอาไป 1 กระสอบ จึงให้ช่างมาทำกุญแจล็อกประตูอย่างแน่นหนา และติดกล้องวงจรปิด แล้วเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยเมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ต่อมา คืนวันที่ 13 ก.ค. คนร้ายเข้ามาในช่วงตีสาม โดยเดินมาจากทางด้านป่าละเมาะข้างบ้านที่ติดทุ่งนา แล้วไปงัดห้องเก็บข้าวเปลือก แต่งัดไม่ได้ และเมื่อคนร้ายรู้ว่ามีวงจรปิดก็รีบหนีออกไป โดยไม่ได้ทรัพย์สินใดๆ

คุณตาเดชา ยังกล่าวอีกว่า ช่วงที่เดินทางแจ้งความนั้น มีเพื่อนบ้านมาหาที่บ้าน และได้ขโมยเอารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีมไป ซึ่งก็ได้แจ้งตำรวจแล้วเช่นกัน แต่ตำรวจไม่มีหลักฐานที่จะจับกุมเพื่อนบ้านรายนี้ ส่วนเหตุการณ์ที่คนร้ายลักลอบเข้ามากินข้าว ลักเอาอาหารและเงินสด รวมทั้งข้าวเปลือกที่บ้านไปนั้น มีคนที่น่าสงสัยคือ ครอบครัวของเพื่อนที่มักไปมาหาสู่ประจำ แต่ไม่ชอบทำมาหากิน และมักจะเข้าออกในบ้านเป็นประจำ แต่พอเกิดเหตุครอบครัวนี้หายหน้าไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ เพราะไม่มีพยาน หลักฐาน วงจรปิดก็ยังไม่สามารถบันทึกภาพหน้าคนร้าย ต้องรอเหตุซึ่งหน้าเท่านั้นจึงจะจับคนร้ายที่ก่อเหตุได้.