ความจริงวันนี้ จากหมอชายแดนแม่สอด ทำหน้าที่เป็นกำแพงที่มองไม่เห็น สู้แรงงานเถื่อนลอบข้ามประเทศแทบหมดแรง
7 ก.ย. 2563, 10:17
จากสถานการณ์ชายแดน ที่ขณะนี้มีความเสี่ยงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ หลังโควิด-19 ระบาดหนักในเมียนมา แรงงานผิดกฎหมายยังลอบเข้าประเทศไทยต่อเนื่อง ท่ามกลางการปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักหน่วงของหน่วยงานเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วย ทั้งทหาร ตำรวจ ที่พยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันการลอบข้ามชายแดน เช่นเดียวกับหมอ พยาบาล ที่ต่างต้องรับมือกับปัญหาเหนื่อยหนักไม่แพ้กัน โดยล่าสุด ที่เพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าหมอชายแดน ก็ได้มีการโพสต์เล่าถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ ระบุ คือความจริงวันนี้ที่ชายแดนแม่สอด ชายแดนจังหวัดตากฝั่งตะวันตกที่ติดประเทศพม่า มีความยาวกว่า 600 กิโลเมตรจากทิศเหนืออำเภอท่าสองยางจรดทิศใต้ ที่อำเภออุ้มผาง
ซึ่งยาวมาก ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ มีช่องผ่านถาวรอยู่ 1 ช่องตรงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ที่เหลือก็เป็นช่องผ่อนปรนมีชาวต่างชาติเข้าออกอย่างชั่วคราวตลอดมา ที่ผ่านมาพวกเราก็ทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ขึ้นทะเบียนพยายามให้ถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน มอบสิทธิพลเมืองพึงมี สิทธิการเข้าถึงบริการสุขภาพ คัดกรองโรคระบาด ให้บริการป้องกันโรคเช่นฉีดวัคซีน มีการผลักดันให้มีหน่วยงานสาธารณสุขชายแดนมากว่า 7 ปีแต่ก็ยังไม่เกิดขึ้น พวกเราอดทนทำงานหนักเป็น 2-3 เท่ากว่าโรงพยาบาลปกติเพราะมีจำนวนเจ้าหน้าที่ที่คำนวนมาสำหรับคนไทย แต่เราต้องทำงานเพื่อคนต่างชาติด้วย
คนไทยในพื้นที่ชายแดนประมาณ 3 แสนคน มีคนต่างชาติ 3 แสนคนสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง มีศูนย์อพยพ 3 ศูนย์มีผู้อพยพอาศัยอยู่กว่า 2 แสนคน ใครไม่มาอยู่ก็คงไม่เข้าใจว่าปัญหาชายแดนไม่เคยจบ
ช่วงนี้มีการระบาดของโรคโควิดในประเทศพม่ายิ่งทำให้เครียด ทุกฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง สาธารณสุขพยายามอย่างเต็มที่ในการสกัดกั้นไม่ให้มีการข้ามแดนเพราะเราไม่รู้ว่าจะเจอคนไข้ข้ามมาเมื่อไหร่ เราอยากให้คนไทยปลอดภัย หลายคนบอกว่าปิดชายแดนไปเลยสิ.. บอกตรง ๆ ว่าไม่สามารถปิดได้ เพราะช่องทางธรรมชาติมีมากเกินไป ข้ามง่ายเพียงการเดินไม่กี่ก้าว ลำพังกองกำลังที่มีไม่สามารถปูพรมทุกตารางพื้นที่ และ 24 ชั่วโมงได้
ในขณะที่เรามีหน้าที่เป็นปราการป้องกันโรคแต่เราก็จะไม่ทำให้เกิดวิกฤตทางมนุษยธรรม บางครั้งมีคนไข้อาการปางตายด้วยโรคอื่นหลุดข้ามมา เช่น หญิงตั้งครรภ์คลอดลูกติด เราก็รับเพราะมันเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ก็ต้องมีแนวทางคัดกรอง และแยกกักกันโรคอย่างดีที่สุด
ตอนนี้ก็มีนโยบายจะนำแรงงานต่างชาติเข้ามาผ่านชายแดนนี้อีก โดยไม่มีท่าทีจะชะลอ ฉันไม่แน่ใจว่าจะป้องกันโรคได้ดีดังเดิมหรือไม่ และตอนนี้อุปกรณ์ที่เรามีไว้ใส่ป้องกันก็ร่อยหรอลงไป เราหมดงบประมาณไปกับการควบคุมการระบาดระลอกแรก ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลือ
กลางดึกคืนหนึ่งเจ้าหน้าที่จับแรงงานต่างชาติได้ 10 คนตรวจพบว่ามีไข้ 2 คนต้องนำมาตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาล ฝ่ายสาธารณสุขก็ต้องคัดกรองจนมั่นใจว่าจะไม่มีโรค ฝ่ายความมั่นคงก็ต้องกักกัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ฉันถามแรงงานเหล่านั้น เขาบอกว่าที่พม่าแร้นแค้นมากไม่มีงานทำ ไม่มีบ้านอยู่ ก็เลยอยากมาหางานทำเพราะก่อนหน้าเคยทำงานที่เมืองไทยอยู่แล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าเคร่งครัดเพราะนายหน้าบอกว่ามาง่าย ๆ ไม่มีการจับกุม เขาก็ไม่ได้ติดตามข่าวสารของเมืองไทย เขาลอยคอมาตามแม่น้ำเมยพอขึ้นฝั่งก็ถูกเจ้าหน้าที่จับ ตอนนี้ยังติดต่อนายหน้าไม่ได้เลย เงินก็จ่ายไปแล้วหมื่นห้า ฉันถามว่าไม่กลัวถูกหลอกเหรอ เขาว่าก็ต้องเสี่ยงดู นี่ก็เงินก้อนสุดท้ายแล้ว.. ในเรื่องที่ผิดกฎหมาย มันก็มีความน่าเอ็นดูซ่อนอยู่
ทุกวันนี้ก็เลยต้องเปลี่ยนความรู้สึกเบื่อเซ็งว่าทำไมถึงสกัดกั้นการหลบหนีเข้าเมืองไม่ได้ 100% มาเป็นทำอย่างไรจึงจะจับกุม และคัดกรองโรคให้ได้เร็วที่สุดแทน ..เร็วคือรอด
ตอนนี้ทางฝั่งพม่าก็มีด่านกั้นแต่ละจังหวัดละเอียดยิบ มีการ locked down ประชาชนในบ้าน 24 ชั่วโมงนานกว่า 21 วันนับว่าโหดมากทีเดียว พวกเขาก็กลัวการระบาดในพื้นที่ของตนเองเหมือนกัน ทำให้เราได้อานิสงค์ไปด้วย อย่างน้อยก็คาดว่าเชื้อโรคจะไม่ลุกลามมาประเทศเราเร็วเกินกว่าที่เราจะตามมันทัน ยังพอมีเวลาเตรียมการ
สัญญาว่าเราจะเป็นกำแพงที่มองไม่เห็นอยู่ป้องกันชายแดนไทย-พม่าด้านตะวันตกอย่างดีที่สุด เพื่อป้องกันประเทศจากเชื้อโรคร้ายนี้ แม้ว่าจะมีปัญหาหนักหนาต้องต่อสู้มากมาย แม้ว่างานจะเหนื่อยหนัก และเสี่ยงภัยขนาดไหน แม้ว่าจะหมดแรงใจหลายครั้ง.. พวกเราก็ยังสู้อยู่ตรงนี้แม้จะไม่รู้ปลายทางก็ตาม