เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 ก.ย. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางวิชชุดา สมนาม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 8 บ้านห้วยภูสามัคคี ตำบลคำนาดี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.จิตติมา หรือแวว ภูชมชื่น อายุ 36 ปี น้องสาวแท้ๆ ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ หอบเอกสารทางธนาคาร เช่น หนังสือโครงการ สเตทเมนท์ สลิปใบโอนเงิน ข้อความแชทไลน์ เข้าพบกับ พ.ต.ท.ยอดยม อุปกา รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี กับ น.ส.สิฏฐินารี หรือแป๋ว เสาสมทบ อายุ 36 ปี เพื่อนรักคนบ้านเดียวกันกับพวกมี นายอรุณ แท่งตลาดนอก นางวงค์เดือน เสาสมทบ และ น.ส.อารีรัตน์ สัตนันท์ ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง” หรือความผิดฐานอื่นหากปรากฏว่ามีภายหลังการสอบสวนก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

 

 

โดยนางวิชชุดา เล่าว่า เมื่อเดือน พ.ค.62 น.ส.สิฏฐินารี เสาสมทบ ซึ่งเป็นเพื่อนกันกับ น.ส.จิตติมา น้องสาว และมีบ้านเรือนตั้งอยู่ใกล้กัน ได้ชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนเพื่อจัดทำหลายโครงการ รวมทั้งหมด 25 โครงการ ทั้งรับซื้อเศษขี้ยางไปขายส่งตามโรงงานต่างๆ โดยบอกว่าจะแบ่งรายได้ให้อย่างงาม และส่งเงินกองทุนเงินล้านตามหมู่บ้านที่สมาชิกหาเงินใช้ไม่ทันจะมากู้หรือหยิบยืมไปส่งก่อน ภายใน 7 วัน ก็จะได้ต้นทุนคืนพร้อมดอกเบี้ย จึงตัดสินใจร่วมลงทุนด้วย ทั้งจ่ายเป็นเงินสดและโอนเงินเข้าบัญชีตั้งแต่เงิน จำนวน 400,000 บาท ไปจนถึง 3,000,000 บาท เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 24 ล้านบาทเศษ โดยมีเงื่อนไขว่าหากต้องการเงินลงคืนก็แจ้งล่วงหน้าพร้อมจะคืนเงินให้ ซึ่งก็ได้รับผลตอบแทนมาอยู่บ้าง แต่พอปลายเดือนกรกฎาคม 2563 ผ่านมาทาง น.ส.จิตติมา น้องสาวมีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวน 2 ล้านบาท จึงแจ้งกับ น.ส.สิฏฐินารี ว่าต้องการเงินคืน 2 ล้านบาทมาสร้างบ้าน แต่กลับถูกปฏิเสธอ้างว่าไม่สามารถนำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนให้ได้ เนื่องจากเกิดปัญหาทางระบบขั้นตอนที่ดำเนินการไปแล้ว หากจะได้คืนเร็วต้องเอาเงินมาลงทุนเพิ่มอีก จึงมั่นใจว่าถูกเพื่อนรักกันหลอกลวงกัน จึงเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.สิฏฐินารี เสาสมทบกับพวกรวม 4 คน ดังกล่าว