จากกรณีนายประสาน ทิพย์ภูมิ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 10 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานีถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 เข้าบริเวณใบหน้าจนหน้าเละ นอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านถนนหน้าบ้านเลขที่ 215/1 หมู่ 10 บ้านนาคำหลวง ต.นาข่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยนางบัวเงิน สุขาวงษ์ อายุ 58 ปีภรรยาของผู้ตายอยู่ในเหตุการณ์จะไปเรียกสามีให้กลับบ้านและเห็นมือปืนยิงสามีจนล้มคว่ำหน้าบ้านต่อหน้าต่อหน้า สาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากแค้นฝังใจเรื่องส่วนตัวของเครือญาติ

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตร.สภ.นาข่า เปิดกล้องวงจรปิดจนรู้ตัวมือปืนผู้เฒ่าวัยดึกคือนายพนมสิน ม่านชนิด อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมุ่ 3 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นญาติของเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุและญาติกับผู้ตายด้วย โดยคนร้าย ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ซุ่มยิงนายประสานจนเสียชีวิตจากนั้นได้ขับรถจยย.หลบหนีไป

 

ล่าสุด เมื่อค่ำวานนี้ ตร.ชุดสืบสวนสภ.เมืองอุดรธานี นำโดย พ.ต.ท.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ  รองผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกับ พ.ต.อ.ณัฏฐ์  พิพัฒน์สวัสดิ์ ผกก.สภ.เรณูนคร จ.นครพนม ตามจับนายพนมสิน ม่านชนิด อายุ 63 ปีมือปืนวัยดึกได้แล้ว ขณะนี้หลบหนีไปอยู่บ้านญาติในบ้านไม่มีเลขที่ ที่บ้านโพนสาวเอ้ หมู่ 3 ต.เรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม พร้อมด้วยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุที่ซ่อนไว้เบาะพิงโซฟาในบ้าน จึงได้ควบคุมตัวมายังสภ.เมืองอุดรธานี

 

นายพนมสิน ให้การรับสารภาพว่า ตนเองกับนางสมยศเป็นญาติกันรวมถึงผุ้ตายด้วย สาเหตุที่ก่อเหตุยิงเพราะแค้นใจที่ผู้ตายเมาเหล้าและมาด่าทอถึงที่บ้านหาว่าตนเองขโมยข้าวเปลือก ช่วงเกิดเหตุเห็นผู้ตายเมาเหล้าแล้วมาโวยวายอยู่หน้าบ้านหลานด่าเสียๆ หายๆ แค้นใจมากเพราะรู้ว่าคนตายหากกินเหล้าจะหาเรื่องทะเลาะประจำ จึงได้ใช้อาวุธปืนที่ติดตัวมาย่องไปแอบอยู่กำแพงบ้านแล้วลั่นไกทันที เมื่อเห็นผุ้ตายล้มลงแล้วก็ขับรถจยย.หนีจากนั้นได้หนีมาหลบซ่อนตัวบ้านญาติที่นครพนม และคิดจะหนีไปประเทศเพื่อนบ้านแต่ก็มาถูกจับเสียก่อน ตร.จะได้คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” ต่อไป