จากกรณีที่ตำรวจลาดหญ้า​ จังหวัดกาญจนบุรี​ ได้ทำการจับยกก๊วน​ 13​ โจ๋มั่วสุมปาร์ตี้ยาเค-ยาอี ในบ้านพักตากอากาศหรูริมแม่น้ำแควน้อย มั่วสุมเสพยาเสพติด หลังจากนั้นได้มีกลุ่มชายนิรนามผู้หวังดีโทรมาหาเพื่อนๆ ว่าจะเคลียร์คดีให้ เพื่อไม่ให้มีประวัติ สุดท้ายเพื่อนที่โอนเงินเกิดสงสัยว่าจะถูกหลอก เพราะโอนเงินไปแล้ว จึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน 

 

วันที่ 9 ก.ย.2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ก่อนหน้าที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รองสารวัตร สภ.ลาดหญ้า ได้รับแจ้งจาก นางสาวกฤตภัค คงสิน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/3 หมู่ 4 ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี  ซึ่งได้เดินทางมาแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563  นางสาวพรพรรณี พวงอ่อน เป็นเพื่อนของผู้แจ้งความได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า จับกุมตัวดำเนินคดี เกี่ยวกับยาเสพติด

 

ต่อมาวันที่ 8 กันยายน 2563 เวลา 10.50 น. ได้มีชายไม่ทราบชื่อได้โทรศัพท์มาหาผู้แจ้งและได้สอบถามผู้แจ้งว่าเป็นเพื่อนกับนางสาวพรพรรณี ใช่ไหม  จากนั้นก็ได้พูดคุยรายละเอียดที่นางสาวพรพรรณีถูกจับกุม และชายคนดังกล่าวได้ยื่นข้อเสนอว่าหากไม่อยากถูกดำเนินคดี และไม่อยากเสียประวัติ สะดวกที่จะเคลียร์คดีนี้หรือไม่ ผู้แจ้งความจึงได้สอบถามไปว่าต้องเสียเงินเท่าไหร่ซึ่งคนดังกล่าวแจ้งให้ทราบว่า 50,000 บาท พูดแจ้งตอบกลับไปว่าไม่มีเงิน มีแค่ 20,000 บาท ชายคนดังกล่าวลดให้เหลือ 30,000 บาท

 

ผู้แจ้งความจึงขอปรึกษากับเพื่อนก่อน ต่อมาชายคนดังกล่าวได้มาสอบถามนางสาวพรพรรณี พร้อมกับสอบถามรายละเอียดที่ได้คุยกับนางสาวพรพรรณี  ซึ่งนางสาวพรรณี ยอมจ่ายเงินและมีเพื่อนที่ถูกจับพร้อมกับนางสาวพรพรรณี อีก 4 คน ยอมรับที่จะจ่ายเงินให้กับชายคนดังกล่าวด้วยโดยตกลงกัน เป็นดังนี้ 1.นางสาวพรพรรณียินยอมจ่ายเงินจำนวน 30,000 บาท และนายภัคพล ทองพูล ยินยอมจ่ายเงิน 10,000 บาทโดยโอนเงินจากบัญชีของนางสาวพรพรรณี ไปยังไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อนายศราวุธ หอยสังข์ 2.นางสาวอารายา เพ็ชรสุข และนางสาวพัทธนันท์ เจริญผล ตกลงยินยอมจ่ายเงินรวมกันเป็นเงิน 15,000 บาท

 

โดยได้ โอนเงินจากบัญชีของผู้แจ้งไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีนายศราวุธ หอยสังข์ 3.นายภควัต ไทยฉันท์ และนายนิพนธ์ เรือนใจมั่นได้ยินยอมจ่ายเงินรวมกันเป็นเงินจำนวน 50,000 บาทโดยโอนเงินจากบัญชีของผู้แจ้งเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีนายนวชาต ทองย้อย ต่อมาผู้แจ้งได้โทรศัพท์กลับไป ก็ไม่สามารถติดต่อได้ผู้แจ้งได้จึงเชื่อว่าน่าจะมีการหลอกให้โอนเงิน โดยได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดีต่อไป

 

เบื้องต้นร้อยเวรเจ้าของคดีนี้เดินมาขอเบอร์ โดยการบอกกล่าวว่า นายของเขาให้มาขอ หลังจากนั้นได้มีการซักถามว่า ญาติคนไหนชื่อสิ เราก็บอกเขาว่าหนูก็เลยให้เบอร์ไป แล้วเมื่อเช้านี้มันมีนายมาก่อนหน้านี้ เราก็เข้าใจว่าต้องเป็นนายคนนั้น ก็เลยให้เบอร์โทรศัพท์ไป ซึ่งเวลาผ่านไปได้สัก 5 นาที ก็มีโทรกลับมา ซึ่งในสายสนทนาก็พูดถึงคดีของน้องหนู ว่าคดีของน้องจะต้องโดนนู่นโดนนี่เยอะ ต้องโดนโทษเยอะ เราก็เลยตัดสินใจโอนเงินให้เขาไปทั้งหมด รวม 105,000บาท โดยการโอนเงินเข้า 2 บัญชี ก็วอนขอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด จะได้จับคนร้ายให้ได้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องไปทำความผิดที่ตรงไหนอีก ซึ่งช่วงนี้เงินทองก็หายาก และช่วงนี้ก็เป็นช่วงโควิด ก็มีความลำบากทุกคน

 

สำหรับบัญชีธนาคารที่ทำธุรกรรมในครั้งนี้ทั้ง 2 บัญชี คือ บัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีนายนวชาต ทองย้อย มีตัวตนจริง อยู่หมู่ที่ 4 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นบัญชีที่มีการจ้างให้นายนวชาต ทองย้อย ถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชีขึ้น โดยชุดสืบสวน สภ.ลาดหญ้า ได้เชิญตัวบุคคลดังกล่าว มาทำการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง ส่วนบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีนายศราวุธ หอยสังข์ เมื่อตรวจสอบพบชื่อบุคคลดังกล่าวซ้ำกันถึง 4 คน และอยู่ต่างพื้นที่กัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า จะได้ทำการติดต่อกับธนาคาร เพื่อเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดในครั้งนี้มาดำเนินคดีต่อไป