ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ลงเรือตรวจสอบเส้นทางการขนแรงงานต่างด้าว พื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ
9 ก.ย. 2563, 19:21
จากเหตุการณ์ที่ประเทศเมียนมา ประสบปัญหาการระบาดของโรคโควิต-19 ระลอกที่ 2 จนมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,500 คน ในวันนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้หน่วยงานความมั่นคง เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบข้ามแดนของชาวเมียนมา โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนเมียนมา ตั้งแต่ จ.เชียงราย-จ.ระนอง
กองทัพบก โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.จึงได้มอบนโยบายให้ พลตรี.ฐกัด หลอดศิริ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี เพิ่มกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ในการป้องกัน ตรวจเข้มตลอดแนวชายแดนที่รับผิดชอบ
ล่าสุดวันนี้ 09 ก.ย. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผู้บังคับการ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า พร้อมด้วย พ.อ.อนิรุจน์ ดิษฐประชา รอง.ผู้บังคับการ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้เดินทางด้วยเรือตรวจการณ์ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการขนแรงงานต่างด้าวเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ภายในพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ บริเวณจุดสามสบ และพื้นที่โดยรอบ ภายหลังจากมีข้อมูลว่าพื้นที่บริเวณนี้มักถูกใช้เป็นพื้นที่นำแรงงานต่างด้าวมาลงเรือหางยาว ก่อนจะเดินทางต่อไปยังบริเวณ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เพื่อหลบด่านความมั่นคงที่ทำการตรวจเข้มในช่วงนี้ ก่อนจะนำรถมารับเพื่อเดินทางเข้าไปยัง จ.กาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง บางครั้งหากมีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่มากขึ้น ก็จะใช้วิธีเดินเท้าหลบด่านตรวจของทหาร ตำรวจ
นอกจากนั้นยังได้ลงเรือพบปะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามเรือนแพริมอ่างเก็บน้ำ เพื่อขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ ก่อนจะเดินทางไปยังกลุ่มเรือนแพที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซองกาเลีย ในพื้นที่กลุ่มบ้านดงสัก หมู่2 บ้านวังกะ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เพื่อทำการกดดันผู้ที่มีข้อมูลทางลับว่า เป็นกลุ่มคนที่ขับเรือรับจ้างขนแรงงานต่างด้าว ซึ่งจากรายงานมีอยู่กว่า 10 คน พร้อมเตือน หากพบการกระทำดังกล่าวจะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาจับกุมและดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและหากพบว่าเป็นบุคคลที่กำลังดำเนินเรื่องขอสัญชาติ หรือได้สัญชาติไทยมาจากการของมีสัญชาติไทย ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทยก็จะดำเนินการระงับการให้สัญชาติและถอนการมีสัญชาติไทยทันที
ต่อจากนั้นจึงได้เดินทางต่อไปยังพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทหาร ตชด ตำรวจ อส.ที่บูรณาการทำงานร่วมกันในการป้องกันการลักลอบเข้ามาของชาวเมียนมา ซึ่งจะก่อให้เกิดการระบาดของโควิต-19ในประเทศไทย โดยได้มีการเพิ่มการป้องกันด้วยลวดหนามและสิ่งกีดขวาง ในช่องทางธรรมชาติที่มีอยู่จำนวนกว่า 30ช่องทาง พร้อมทั้งเพิ่มสิ่งกีดขวางและเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ลงไปทำงานป้องกันตามช่องทางและเพิ่มการตรวจ ทางรถยนต์ รถจักรยานยนต์
ทั้งนี้จากสถานการณ์ในประเทศเมียนมาที่พบจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิต เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้มีแนวโน้มจะมีชาวเมียนมาหนีตายจากโรคโควิต มาทางชายแดนประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน หากสถานการณ์การระบาดในประเทศ รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ โดยก่อนเดินทางกลับ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงาน พร้อมกำชับให้ทุกคน ร่วมมือร่วมใจในการทำหน้าที่ หากต้องการความช่วยเหลือ พร้อมให้การสนับานุนอย่างเต็มที่./