ล่าสุด(10ก.ย.63) ทางด้าน "หนุ่ม ศรราม" ได้ออกมาเปิดใจถึงกรณีอดีตภรรยา ติ๊ก ที่ได้หย่าร้างกันผ่านรายการ แฉ  โดยหนุ่มได้เผยว่าได้มีปัญหามาเรื่อยๆตั้งแต่ต้นปี เดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนนั้นตกใจอยู่ๆเงินในบัญชีหายจึงรีบแจ้งความและอายัดบัตร ต่อมาพบว่าถูกกดไป 450,000 บาท ธนาคารชี้แจงว่าคนที่กดเงินเป็นคนใกล้ชิด เมื่อดูกล้องวงจรปิดพบว่าคือติ๊ก จึงถอนแจ้งความ และตำรวจได้แสดงเส้นทางการเงินให้ดูว่าเงินถูกใช้ไปในการพนันออนไลน์

จึงตัดสินใจหย่าเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 แต่ตอนนั้นไม่อยากให้ลูกน้อยขาดแม่เลยอยู่ด้วยกัน และขอให้ติ๊กปรับปรุงตัว อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันอีก และได้ใช้หนีแทนติ๊กไป 7 แสนบาทซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคลียร์ให้มาทุกครั้ง ซึ่งต่อมาทางด้านมดดำถามว่ามีเรื่องยาเสพติดด้วยหรือไม่ ศรรามบอกว่าเรื่องนี้ไม่กล้าตอบเพราะไม่ทราบ

แล้วยังมาเจอเรื่องโกงหน้ากากติ๊กไม่ได้ปรับปรุงตัวตามที่ขอไว้ ตนจึงนำเงินส่วนตัว 900,000 บาท ไปใช้คืนเขาเพื่อให้เรื่องจบ และยังแอบเอาเงินค่ามัดจำงานไปโดยที่ไม่บอกกว่า 5 หมื่นบาท ต่อมายังมีคนมาทวงเงินที่บ้านอยู่เรื่อยๆ ตนคิดว่ามันเริ่มไม่ปลอดภัยเพราะที่บ้านมีแม่และลูกน้อยอยู่ตามลำพังเวลาตนออกไปทำงาน จึงตัดสินใจแยกทางกับติ๊กจริง ๆ เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้าน

ทางด้านหนุ่มได้เผยว่าตนเองให้เงินติ๊กใช้เดือนละ 3 หมื่นบาท สำหรับใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนค่ากินค่าอยู่ ค่าของใช้ในบ้าน ค่านมลูก ค่าใช้จ่ายทุกอย่างตนรับผิดชอบเองหมด ซึ่งติ๊กเคยไปบอกในรายการโหนกระแสว่าหนุ่มให้ใช้แค่อาทิตย์ละ 200 หรือ 500  บาท นั้นไม่เป็นความจริง ที่ตัดสินใจเลิกไม่ใช่เพราะจ่ายเงินใช้หนี้ให้เยอะ แต่คนรักกันไม่ควรทำแบบนี้ ไม่ควรขโมยของลูกไปขาย เอาเงินในอนาคตของลูกไป แล้วจะให้เดินต่อยังไง มันไปต่อไม่ได้จริงๆ

สุดท้ายซึ่งโอกาสที่จะกลับมาใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยานั้นคงยากแล้วเป็นไปไม่ได้ แต่ทั้งตนและติ๊กยังมีหน้าที่ที่สำคัญที่สุด คือความเป็นพ่อแม่ของน้องวีจิ ซึ่งเราทั้งสองคนต้องทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุดนั้นเอง